Volumetrics Diet แผนไดเอ็ทจากนักโภชนาการชื่อดังของสหรัฐ ที่ช่วยให้เราลดน้ำหนัก บนฐานความคิดที่ไม่ต้องอด แต่ลดน้ำหนักได้
จะดีแค่ไหนถ้าคุณกินได้มาก แต่ก็ยังสามารถลดน้ำหนักได้อยู่? คุณทำได้ด้วยไดเอ็ทที่ชื่อ Volumetrics ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นโดย ดร.บาร์บาร่า โรลล์ นักโภชนาการชื่อดังของหสรัฐฯ ซึ่งไม่เหมือนการควบคุมอาหารอื่นที่อยู่บนพื้นฐานของการอด Volumetrics ช่วยให้ผู้คนพบอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่พวกเขาสามารถกินจำนวนมากได้ โดยที่ยังสามารถลดน้ำหนักได้อยู่
Volumetrics Diet เป็นอย่างไร
หมัดเด็ดของ Volumetrics อยู่ที่ความรู้สึกอิ่ม โรลล์บอกว่าคนเรารู้สึกอิ่มเพราะชนิดและปริมาณของอาหารที่กิน ไม่ใช่เพราะจำนวนของแคลอรี่หรือไขมัน โปรตีน หรือคาร์โบไฮเดรต ดังนั้น เคล็ดลับก็คือการกินอาหารที่ถูกต้องที่ทำให้คุณอิ่มด้วยแคลอรี่ที่น้อยลง โดยโรลล์อ้างว่าในบางกรณี การทำตามแผนการกินแบบ Volumetrics จะทำให้คุณได้กินมากขึ้น–ไม่ใช่น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่ยังคงผอมลง
คุณจะไม่ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว เพราะนี่เป็นแผนการกินในระยะยาว คุณจะค่อยๆ ก้าวไปสู่เป้าหมายการลดน้ำหนักของคุณได้ ด้วยการได้รับแคลอรี่ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ในแต่ละวัน และการออกกำลัง สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คุณจะลดน้ำหนักด้วยการรู้สึกอิ่มจากแคลอรี่ที่น้อยกว่า
คุณกินอะไรได้และไม่ได้บ้าง?
คุณสามารถกินได้ทุกอย่างแต่คุณต้องให้ความสนใจกับ “ความหนาแน่นของพลังงาน” ซึ่งคือจำนวนของแคลอรี่ในอาหารบางประเภท อาหารที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูง ก็จะมีแคลอรี่สูงแม้จะในปริมาณไม่มากก็ตาม แต่อาหารที่มีความหนาแน่นของพลังงานต่ำ จะให้แคลอรี่น้อยกว่าในปริมาณอาหารที่มากกว่า โดยโรลล์แยกอาหารเป็น 4 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่ 1 ประกอบด้วย ผลไม้ ผักไม่มีแป้ง (เช่น บล็อคโคลี่ มะเขือเทศ เห็ด) และซุปต่างๆ ซึ่งสามารถกินได้อย่าง “อิสระ”หรือ “ตลอดเวลา”
ประเภทที่ 2 ประกอบด้วยข้าวไม่ขัดสี (เช่น ข้าวกล้อง หรือพาสต้าที่ทำจากแป้งไม่ขัดสี) โปรตีนไม่มีไขมัน พืชตระกูลถั่ว และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำในปริมาณปานกลาง
ประเภทที่ 3 ประกอบด้วยขนมปัง ของหวาน ขนมอบไร้ไขมัน ชีส และเนื้อที่มีไขมันสูงขึ้นในปริมาณเล็กน้อย
ประเภทที่ 4 ประกอบด้วยอาหารทอด ลูกกวาด คุ้กกี้ ถั่วเปลือกแข็ง และไขมันในปริมาณน้อยมาก
โดยคุณจะต้องกินอาหารสามมื้อ ของว่างสองมื้อ และของหวานหนึ่งมื้อ ในแต่ละวัน
Volumetrics เน้นอาหารหนักที่มีน้ำมาก เช่น ผลไม้และผัก เพราะจะทำให้อิ่มโดยมีแคลอรี่ไม่มาก แค่การดื่มน้ำไม่เพียงพอ เพราะแค่ช่วยแก้กระหายแต่ไม่ช่วยให้หายหิว แอลกอฮอล์ได้รับอนุญาตในระดับปานกลาง แต่จำไว้ว่า แอลกอฮอล์มีแคลอรี่สูง และไม่ช่วยให้หายหิว
ได้ผลจริงหรือไม่?
ถึงแม้หมัดเด็ดของ Volumetrics จะดูเข้าท่า แต่โดยหลักใหญ่ๆ แล้วมันก็คือการกินอาหารอย่างมีสติ ซึ่งนักโภชนาการส่วนใหญ่แนะนำ คือ แคลอรี่ต่ำ ไขมันต่ำ ผักและผลไม้เยอะๆ
ดร.โรลล์ ผู้สร้างสรรค์ไดเอ็ทแบบนี้ เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวาง เธอเป็นศาสตราจารย์ด้านโภชนาการ และควบคุมห้องปฏิบัติการเพื่อการศึกษาพฤติกรรมการย่อยอาหารของมนุษย์ ที่มหาวิทยาลัยรัฐเพนซิลวาเนีย เธอยังได้เขียนบทความการวิจัยมากกว่า 200 ชิ้น Volumetrics ส่วนใหญ่มาจากแนวทางการทำงานในห้องแล็บของเธอ
ข้อเด่น VS ข้อด้อย
ข้อเด่น | ข้อด้อย |
เป็นแผนไดเอ็ทที่ยืดหยุ่น การรู้ตัวเวลาที่เราอิ่ม และเลือกอาหารที่กินอย่างชาญฉลาด สามารถทำให้เกิดความแตกต่างได้อย่างมากในเรื่องการลดน้ำหนัก แต่ถ้าคุณกินด้วยเหตุผลอื่น เช่น ความเครียดหรือเบื่อ คุณจะต้องหาวิธีที่จะจัดการความรู้สึกเหล่านี้ด้วย ไม่อย่างนั้น คุณก็จะยังกินไม่หยุดแม้ว่าจะอิ่มแล้วก็ตาม | คุณจะต้องจับตาดูความหนาแน่นของพลังงาน ของอาหารที่คุณเลือก ตัวอย่างเช่น ซุปชามใหญ่มีแคลอรี่เพียงหนึ่งในหกของชีสเบอร์เกอร์ การเลือกขึ้นอยู่กับคุณว่า คุณควรกินอะไรมากกว่า หรือคุณจะสามารถหยุดได้หรือเปล่า หลังจากกินชีสเบอร์เกอร์ไปหนึ่งหรือสองคำ? ถ้าคุณปฏิบัติตามสูตรนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการเตรียมอาหาร และการคำนวณความหนาแน่นของพลังงาน ซึ่งอาจไม่เหมาะนักกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามาก |
การออกกำลังสำหรับ Volumetrics Diet
คุณควรเริ่มด้วยการเดิน 150 ก้าวต่อวัน โดยการใช้เครื่องนับก้าว เป้าหมายแรกคือ ไปให้ถึง 1,000 ก้าวในตอนสุดสัปดาห์ เป้าหมายสูงสุดคือ ทำให้ได้ 10,000 ก้าวต่อวัน
Average Rating