นอนเพื่อความงาม..ไม่ใช่เรื่องที่พูดกันเล่นๆ แต่สิ่งที่คุณเสริมเพิ่มเติมเข้าไปในระหว่างการนอน เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้คุณตื่นนอนมาแล้วสวย…กว่าตอนเข้านอน และนี่คือเคล็ดลับของหญิงสาวที่ดูเหมือนได้พักผอนอย่างเต็มอิ่มเสมอรู้จักใช้ในการเอาตัวรอด ซึ่งคุณก็สามารถทำได้เช่นกัน
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการนอนเพื่อความงาม
การนอนสำคัญต่อสุขภาพ และก็สำคัญสำหรับความงามด้วย การนอนเพื่อความงามจึงไม่ใช่สิ่งที่พูดกันเล่นๆ แต่มีอยู่จริง โดย นพ.ฮัล อัลเพิร์ต ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการนอนในนิวยอร์ซิตี้ให้อรรถาธิบายเรื่องการนอนไม่พอว่า การนอนไม่พอทำให้ฮอร์โมนสำคัญสองตัว คอร์ติซอลและโกรธฮอร์โมนเกิดความไม่สมดุล คอร์ติซอลเป็นฮฮร์โมนความเครียดจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่โกรธฮอร์โมนที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวหนังและรักษาความชุ่มชื่นของผิวจะลดลง
เมื่อคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น การสร้างคอลลาเจนจะลดลงทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดรอยย่นได้ง่าย นอกจากนี้คอร์ติซอลยังกระตุ้นการเกิดสิว และทำให้ความผิดปกติของผิวหนังต่าง มีอาการแย่ลงไปอีก การเปลี่ยนแปลงของโกรธฮอร์โมนที่มาจากการนอนไม่พอ สามารถทำให้ผิวขาดน้ำ ริ้วรอยเห้นชัดเจนขึ้น และผิวหมองคล้ำ
การอดนอนยังจะทำให้ผิวดูซีดเซียวและอ่อนล้า เพราะการไหลเวียนไม่ดี นอกจากนี้การอดนอนยังทำให้เครียด ที่ยิ่งทำให้อาการต่างๆ ของผิว ไม่ว่าจะเป็นสิว ผิวหนังอักเสบหรืออื่นๆ ยิ่งมีอาการแย่ลงไปอีก
กิจวัตรยามค่ำคืนที่อาจรบกวนความงามของคุณ
เช็คมือถือ ใช่แล้ว เราทุกคนต่างทำกันทั้งนั้น หยิบโทรศัพท์มาดูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเข้านอน แต่เพื่อให้คุณนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มจริงๆ คุณควรเอามือถือและเครื่องมือต่างๆ ไปอยู่ให้ห่างตัว การศึกษาหลายชิ้นชี้วาการมองจอสว่างๆ ใกล้กับใบหน้าน้อยกว่าสองชั่วโมงก่อนเข้านอน จะทำให้สมองของคุณไม่สามารถปิดสวิทช์ได้ ทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น
ดื่มหรือกินของหวานก่อนเข้านอน นอกเหนือจากความจริงท่ว่าคุณจะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูง แล้วก็ตกลงมาหลังจากนั้น คุณยังนำเอากรด (น้ำตาล) เข้าสู่ร่างกายที่จะอยู่ในร่างกายตลอดคืน ซึ่งไม่ดีต่อร่างกายเลย
ไม่เปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยพอ ทั้งน้ำมัน แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่างๆ สามารถสะสมอยู่บนปลอกหมอน และส่งผ่านมาที่ผิวหน้าคุณได้ ฉะนั้น อย่าลืมเปลี่ยนปลอกหมอนสะอาดๆ สัปดาห์ละครั้ง
ไม่ทาแฮนด์ครีม เนื่องจากคุณต้องใช้มือตลอดทั้งวัน จนอาจละเลยการบำรุงมือไปบ้าง ช่วงกลางคืนจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดูแลมือ เพราะมันไม่ต้องใช้ทำอะไรแล้ว ทาแฮนด์ครีม และครีมบำรุงหนังรอบเล็บ เพื่อให้มันซึมซาบเข้าไปในผิวตลอดคืน คุณจะตื่นมาพร้อมกับมือที่เนียนนุ่มชุมชื่น เท้าก็เช่นกัน กลางคืนก็เป็นโอกาสอันดีในการบำรุงบำเรอมัน ทาครีมเข้มข้นให้ทั่วแล้วใส่ถุงเท้าผ้าฝ้ายเข้านอน
เคล็ดลับความงามที่จะทำให้ตื่นมาแบบสวยๆ
1 เริ่มต้นด้วยความสะอาด
ตอนกลางคืนร่างกายของคุณอยู่ในโหมดของการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน การเข้านอนพร้อมด้วยสิ่งสกปรก คราบเครื่องสำอาง และน้ำมันส่วนเกินบนผิว จะทำให้การเยียวยาตัวเองของผิวไม่เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้ผิวสามารถรักษาความอ่นเยาว์เอาไว้ได้ ขั้นตอนสำคัญขั้นตอนแรกจึงได้แก่การล้างหน้าให้สะอาดหมดจด ลองใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีกรดซาลิไซลิกช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อยโยน และเพื่อความรู้สึกสะอาดหมดจด พร้อมกับได้นวดผิวไปด้วยในตัว ลองใช้แปรงขัดผิวร่วมกับเคลนเซอร์ของคุณก็ได้
2 เพิ่มส่วนผสมพิเศษ
การนอนหลับช่วยร่างกายในการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ผิวใหม่ๆ ลองเพิ่มส่วนผสมหลักบางอย่างเข้าไปเพื่อช่วยกระบวนการซ่อมสร้างเซลล์ผิว อย่างเช่น กรดไกลโคลิก เรตินอล เป๊ปไทด์ หรือสาหร่ายสีแดง ล้วนแต่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลเลาเจน ส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวอย่างสารสกัดจากชา คาโมมายล์ ก็จะช่วยในการต่อสู้กับอาการอักเสบของผิว
3 ใช้คืนนี้สวยพรุ่งนี้เช้า
ไม่ใช่แค่เพียงไนท์ครีม เดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับการบำรุงบำเรอผิวยามค่ำคืนโดยเฉพาะ อย่างเช่น Sleeping Mask มาสก์ที่ทาทิ้งไว้ข้ามคืน เทรนด์ความงามแบบเกาหลีที่ระบาดไปทั่วโลก แม้แต่แบรนด์ตะวันตกอย่างเช่น Clarins ยังออก My Clarins RE-CHARGE Relaxing Night Mask มาช่วยดูแลผิวเป็นพิเศษในยามค่ำคืน หรือจะลองแบรนด์ไทยราคาย่อมเยาว์อย่าง Cutepress ก็มี Sleeping Mask หลายสูตรให้เลือกใช้ หรือถ้าอยากใช้มาสก์เกาหลีต้นตำรับ ลองใช้ Sulwhasoo Overnight Vitalizing Mask หรือ Laniege Water Sleeping Maks EX มาส์กยอดนิยมของเกาหลีอีกยี่ห้อหนึ่ง
มาส์กแบบนี้มักจะใช้เพื่อดูแลผิวแบบเร่งด่วนสัปดาห์ละไม่กี่วัน ไม่จำเป็นต้องใช้ประจำ และไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้เกิดสิว เพราะส่วนใหญ่มักออกแบบมาในสูตรที่ไม่ทำให้เกิดสิว และการปล่อยให้ส่วนผสมดีๆ พวกนั้นซึมเข้าไปในผิวยามคุณหลับซึ่งเป็นช่วงของการซ่อมแซมและเสริมสร้างเซลล์ผิว จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิว แต่ขั้นตอนนี้เป็นขันตอนพิเศษ ใครไม่สะดวกก็ไม่จำเป็นต้องใช้ เพียงแต่ช่วงไหนที่หน้าโทรมมากๆ หรือต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ใช้ได้ดีเลย
4 จัดระเบียบร่างกายในขณะหลับ
ท่าที่ดีที่สุดในการนอนก็คือนอนหงาย หน้าของคุณจะได้ไม่สัมผัสกับหมอน การกดหน้ากับหมอนเป็นเวลาประมาณ 2,500 ชั่วโมงต่อปี เป็นเหมือนการเอาใบหน้าไปใส่เครื่องอัดจีบให้เกิดรอยย่น ถ้าคุณชอบนอนตะแคง ให้เลือกหมอนแข็งสักหน่อย และวางศีรษะไม่ให้ส่วนล่างของใบหน้าสัมผัสกับหมอน การใช้หมอนผ้าไหมหรือซาตินที่มีเนื้อนุ่มลื่นก็ช่วยป้องกันรอยย่นบนใบหน้าได้
นอกจากนี้หมอนของคุณควรยกสูงเล็กน้อย เพื่อที่จะได้ช่วยลดอาการใต้ตาด้วยการให้ของเหลวได้ระบายออกจากใบหน้าได้สะดวก และถ้าคุณนอนห้องแอร์ ลองเพิ่มเครื่องทำความชื้นเข้าไปหน่อย เครื่องปรับอากาศจะทำให้อากาศแห้งลง และจะดึงความชุ่มชื้นไปจากผิว เครื่องทำความชื้นจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น
อดนอนแต่ก็ยังสดใสได้อยู่นะ
ถ้าเกิดต้องอดนอนเข้าจริงๆ ล่ะก็ ลองใช้เคล็ดลับพวกนี้เพื่อเป็นทางออกฉุกเฉินในการทำให้คุณดูสดใสเหมือนนอนมาอย่างเต็มอิ่มก็แล้วกันนะ
- หายใจเข้าลึกๆ จะเป็นการส่งออกซิเจนไปยังสมอง เพื่อปลุกความสดชื่นอย่างรวดเร็ว ลองสูดดมกลิ่นน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่คุณชอบไปด้วยก็ได้ เป็ปเปอร์มินต์เป็นตัวเลือกที่ดีในการปลุกคุณให้ตื่นตัว
- ลดอาการหน้าบวมยามเช้า ขั้นแรก ไขน้ำเย็นลงในอ่างล้างหน้า (หรือกะละมัง) แล้วใส่น้ำแข็งลงไปอีก 15 ก้อน ขั้นที่ 2 เทวิทช์ฮาเซิล 1/3 ถ้วยลงในน้ำ พยายามเลือกแบบที่ไม่มีแอลกฮอล์ ขั้นที่ 3 จุ่มหน้าลงในอ่าง (อย่าแค่วักน้ำราดหน้า) หลายๆ รอบ ความเย็นจะช่วยทำให้เส้นเลือดหดตัวลง และกระตุ้นการไหลเวียนของของเหลว ในขณะที่วิทช์ฮาเซิมีคุณสมบัติตานอาการอักเสบตามธรรมชาติ และช่วยลดอาการบวม
- ลดอาการตาบวม แช่ช้อนเล็กๆ สองคันไว้ในช่องฟรีซ หรือเอามาแช่ในน้ำเย็น แล้วเอามาประคบดวงตาทั้งสองข้าง ผ่อนคลายราว 5 นาที ความเย็นจากช้อนจะให้ความสดชื่นแก่ดวงตา เช่นเดียวกับแตงกวาฝาน ถุงชาแช่เย็น หรือแม้แต่ผักแช่เย็นก็ใช้ได้เช่นกัน
- เติมพลังยามเช้า ให้ความชุ่มชื่นแก่ร่างกายเป็นอย่างแรกด้วยน้ำ ไม่ใช่กาแฟ น้ำผักเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมันมีคลอโรฟิลที่จะให้ออกซิเจนแก่เลือด ซึ่งจะช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย และช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น หรือเติมขิงลงในน้ำร้อนก็จะช่วยกระตุ้นร่างกายได้เช่นกัน
- เติมความกระจ่างใส เพื่อให้ดวงตาดูสดใสและสดชื่น ใช้อายไลเนอร์สีขาวหรือสีมุกเขียนที่หัวตาเพื่อพรางรอยแดงในดวงตา และทำให้ตาดูสดใสขึ้น และพยายามหลีกเลี่ยงอายแชโดว์และอายไลเนอร์สีเขียว เนื่องจากสีเขียวจะขับเน้นสีแดงให้ดูเด่นขึ้น และอย่าลืมปัดมาสคาร่าเสมอ มันจะทำให้ตาดูโตและตื่นตัวขึ้น
- เลือกใช้คอนซีลเลอร์ให้เหมาะ ข้อผิดพลาดในการใช้คอนซีลเลอร์กับรอยบวมที่ตาก็คือ การใช้สีอ่อนเกินไป มันจะกลายเป็นไฮไลท์ที่เน้นความบวมให้มากขึ้นไปอีก เพื่อพรางรอยบวม ใช้คอนซีลเลอร์สีเดียวกับสีผิวหรือเข้มกว่าเล็กน้อย
ผิวสวยแล้ว..ผมก็ต้องสวยด้วย
เคล็ดลับที่ควรทำยามค่ำคืนที่ทำให้ผมของคุณสวยทันใจในยามเช้า
- บำรุงเส้นผมแบบข้ามคืน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บรุงเส้นผมสำหรับยามค่ำคืน ที่ออกแบบมาเพื่อให้ความชุ่มชื่นและแทรกซึมลึกลงไปในเกล็ดผมขณะที่คุณหลับ หรือลองใช้น้ำมันมะพร้าว มันเป็นน้ำมันอย่างเดียวที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถแทรกซึมลงไปในแกนผม และส่งผ่านความชุ่มชื่นของมันลงไปได้อย่างล้ำลึก ชะโลมน้ำมันมะพร้าวให้ทั่วเส้นผม ในตอนเช้าก็สระผมและบำรุงตามปกติ คุณจะรู้สึกถึงความแตกต่างในทันที ถ้ากลัวว่ามันจะเลอะเทอะหมอน ก็เอาเสื้อยืดเก่ามาหุ้มหมอนเอาไว้เพื่อช่วยซับน้ำมันส่วนเกินที่จะซึมออกมาจากเส้นผม
- ดรายแชมพู เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในวันที่แสนขี้เกียจสระผม แต่ก็ช่วยเราได้ดีในยามค่ำคืนด้วยเช่นกันนะ ยิ่งถ้าคุณรู้ว่าจะไม่มีโอกาสได้สระผมในอนาคตอันใกล้นี้ ก็ให้ฉีดดรายแชมพูก่อนเข้านอนซะเย คุณจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับผมสะอาดและมีเท็กซ์เจอร์สวยๆ ด้วย
- ถักเปีย มาปรับเปลี่ยนเคล็ดลับเก่าๆ กันนิดหน่อย ด้วยการเติมสเปรย์เข้าไป เราได้ยินมาแล้วว่าการถักเปียในตอนกลางคืนก่อนนอน คุณจะตื่นมาพร้อมกับคลื่นผมสวยๆ มันฟังดูดีในทางทฤษฎี แต่การถักเปียอาจทำให้ผมดูลีบแบนที่โคนผมได้ ทางออกก็คือ สเปรย์ยกรากผม ฉีดมันก่อนจะถักเปีย และจำไว้ว่า ถ้าถักเปียหลวมๆ ก็จะได้ลอนเบาๆ
- เคล็ดลับสำหรับสาวผมหยิก เพื่อให้ลอนผมไม่แตกและชี้ฟู ก้มศีรษะลงแล้วใช้ผ้าพันคอไหมผูกที่โคนผม ตรึงปลายด้านหนึ่งไว้ที่หน้าผาก มันจะทำให้ผมไม่หล่นลงมาถูกใบหน้า และยังรักษาลอนผมตามธรรมชาติอยู่ในที่ทาง ทำให้คุณมีลอนผมสวยๆ ในตอนเช้า
- เกล้ามวย เพื่อให้ได้เท็กซ์เจอร์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ลองบิดผมเป็นมวยแทนการถักเปีย ทาครีมแต่งทรงเนื้อบางเบาเล็กน้อยลงบนผมหมาดๆ แล้วแบ่งผมเกล้าเป็นมวยสองอันที่กลางศีรษะ ตรึงด้วยกิ๊บดำ ใช้ผ้าไหมโพกทับเพื่อไม่ให้ผมชี้ฟู และไม่ให้หมอนเลอะเทอะ ตอนเช้าคุณจะตื่นมาพร้อมกับผมที่เป็นมันเงาและเป็นคลื่นน้อยๆ สวยงาม โดยไม่ต้องใช้ความร้อนแต่งผมที่ทำให้ผมเสียด้วย
Average Rating