พาราเบนกับมะเร็งเต้านมกับ 6 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเป็นกังวล

Read Time:4 Minute, 52 Second

การศึกษาพบความเชื่อมโยงระหว่างพาราเบนกับมะเร็งเต้านม โดยพาราเบนสามารถกระตุ้นการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมบางชนิดได้ นี่เป็นข่าวร้ายที่ควรวิตกหรือเปล่า

พาราเบน..ถูกใช้ในอาหารและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวหลายอย่าง มันมีโครงสร้างทางเคมีที่คล้ายคลึงกับเอสโตรเจน ซึ่งหมายความว่ามันสามารถเลียนแบบผลกระทบของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในร่างกายได้ แต่ดูเหมือนมันจะทำได้ไม่มากนัก และเมื่อเทียบการคุกคามของสารเคมีแล้ว นักวิจัยคิดว่าพาราเบนค่อนข้างเป็นสารเคมีที่ไม่ควรจะเป็นกังวลมากนัก

อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาวิจัยชิ้นใหม่จากสถาบันไม่หวังผลกำไรในสหรัฐฯ ที่ชื่อ Silent Spring Institute ซึ่งชี้ว่า มันอาจมีอันตรายมากกว่าที่เคยคิดกันก่อนหน้านี้ โดยในการศึกษาวิจัย นักวิทยาศาสตร์ได้เพาะเซลล์มะเร็งเต้านมในห้องแล็บ แล้วป้อนเซลล์มะเร็งด้วยพาราเบนปริมาณเล็กน้อยพร้อมกับ heregulin สารที่ช่วยเร่งการเติบโต ที่ปกติจะพบในเนื้อเยื่อเต้านม เมื่อสารเคมีสองชนิดนี้ผสมผสานกัน ผลที่ได้ก็คือ พาราเบนอาจมีผลกระทบอย่างมากในระดับที่คนเราอาจเจอได้ในชีวิตจริง

พาราเบนคืออะไร

พาราเบนเป็นสารกันเสียชนิดหนึ่ง พวกมันป้องกันแบคทีเรียไม่ให้เติบโตในของใช้อย่างเช่นมอยสเจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า ซึ่งมักต้องเจอกับเชื้อโรคจากมือของเราอยู่เป็นประจำ ขณะที่คุณใช้นิ้วตักเนื้อครีมออกมาจากกระปุก American Chemical Society ประเมินว่าพาราเบนถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ส่วนตัวราว 85% ทุกอย่างตั้งแต่แชมพูไปจนถึงครีมโกนหนวด นักวิจัยเชื่อว่าเราส่วนใหญ่ได้รับมันจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างมาก เนื่องจากมันซึมผ่านลงไปในผิวของเรา

พาราเบนยังพบในอาหารอย่างเช่น ขนมอบ เครื่องดื่ม ไซรัป เจลลี่ แยม และในยา นี่เป็นข้อมูลจาก National Biomonitoring Program ของ CDCในสหรัฐฯ โดยข้อมูลจาก FDA ในสหรัฐฯ ระบุว่า พาราเบนชนิดที่ถูกใช้มากที่สุดคือ methylparaben, propylparaben และ butylparaben

ใครบ้างที่ต้องเจอกับพาราเบน

การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ที่ได้ทดสอบผู้ใหญ่และเด็ก 183 คนในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ พบพาราเบนในตัวอย่างปัสสาวะของพวกเขา 70-100 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ใหญ่มักจะมีสารเคมีชนิดนี้มากกว่าในปัสสาวะเมื่อเทียบกับเด็กๆ บางทีอาจเพราะผู้ใหญ่ใช้ผลิตภัณฑ์ส่วนตัวต่างๆ มากกว่าเด็กถึงสองเท่า และผู้หญิงมักมีระดับพาราเบนสูงกว่าผู้ชาย อาจเพราะพวกเธอใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากกว่า

ข่าวดีก็คือ สารเคมีเหล่านี้ถูกกำจัดจากร่างกายได้อย่างค่อนข้างรวดเร็ว แต่ข่าวร้ายก็คือ เพราะมันถูกใช้อย่างกว้างขวาง เราจึงมักจะมีมันหลงเหลืออยู่ในร่างกายอยู่เสมอ ถึงแม้เราจะกำจัดมันออกไปได้อย่างรวดเร็วๆ แต่เราก็ใช้มันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

พาราเบนกับมะเร็งเต้านม..มีผลอย่างไร

นักวิทยาศาสตร์ทำงานอย่างหนักเพื่อเข้าใจในเรื่องนี้ พาราเบนมีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับเอสโตรเจน มันสามารถเลียนแบบกิจกรรมของฮอร์โมนชนิดนี้ในร่างกายได้ แต่มันไม่ค่อยรุนแรงมากนัก พูดได้ว่า เมื่อเราเอาสารเคมีทั้งหลายมาเรียงแถวกัน พาราเบนจะไม่ใช่สารประกอบที่พุ่งขึ้นมาอยู่ข้างบนในระดับที่คนเราควรเป็นห่วง โรบิน ด็อดสัน นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน Silent Spring Institute บอกเช่นนั้น

แต่ในการศึกษาชิ้นใหม่พบว่า เมื่อพาราเบนอยู่ร่วมกับสารที่เร่งการเจริญเติบโตที่ปกติพบในเนื้อเยื่อหน้าอก พาราเบนสามารถส่งเสริมการเติบโตของเนื้องอกในหน้าอกที่อ่อนไหวต่อเอสโตรเจนได้ในจำนวนเล็กน้อย ราว 5-10 นาโนกรัม (นาโนกรัมเป็นหน่วยย่อยหนึ่งในล้านของกรัม) คำถามก็คือ คนเราจะมีความเข้มข้นในระดับนั้นอยู่ในเนื้อเยื่อหรือกระแสเลือดได้หรือไม่

ระดับของพาราเบนในการวิจัยเท่ากับระดับที่ได้เจอในชีวิตจริงหรือเปล่า

คำตอบสั้นๆ ก็คือนักวิจัยยังไม่รู้ มันมีการศึกษาเพียงไม่กี่ชิ้นที่เคยพยายามวัดสารเคมีในเลือดหรือในเนื้อเยื่อ การศึกษาสองชิ้นได้พบพาราเบนในเนื้องอกในหน้าอกคนเรา แต่การศึกษาชิ้นนั้นถูกตั้งข้อสงสัย เพราะนักวิจัยไม่ได้ตัดตัวอย่างที่อาจปนเปื้อนด้วยพาราเบน ในขณะที่พวกเขาเตรียมเพื่อการวิเคราะห์ออกไป

การศึกษาชิ้นใหญ่ที่ยังดำเนินอยู่โดย CDC ก็คือการตามรอยว่าคนอเมริกันเจอกับสารเคมีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงพาราเบนด้วย จากข้อมูลที่เก็บจากการศึกษาชิ้นนั้น คนที่ได้รับพาราเบนในระดับสูงสุดเท่าที่เจอในสหรัฐฯ มีความเข้มข้นของพาราเบนในร่างกายระดับเดียวกับที่ใช้ในการศึกษาชิ้นใหม่นี้ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานโดยตรงในเรื่องนี้

ข้อจำกัดอื่นๆ ของการศึกษานี้ที่เราควรรู้

นักวิทยาศาสตร์ทดสอบเซลล์มะเร็งเต้านมที่เรารู้ว่าอ่อนไหวต่อฮอร์โมน (หรือได้รับพลังงานจากฮอร์โมน) เซลล์เหล่านั้นไม่ได้เหมือนกับเซลล์ปกติของมนุษย์ แต่ถ้าคุณมีเซลล์มะเร็งผิดปกติบางอย่างที่กำลังเติบโตในเนื้อเยื่อหน้าอก การผสมกันของสารเคมีรวทั้งพาราเบนอาจทำหน้าที่เป็นเหมือนปุ๋ย ที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของมันได้

นอกจากนี้นี่คือเซลล์ที่เติบโตในหลอดทดลองในแล็บ ซึงมันไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายเรา ซึ่งเป็นระบบที่มีความซับซ้อนกว่ามากมายเสมอไป

เป็นไปได้หรือไม่ที่จะหลีกเลี่ยงพาราเบน

เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มไม่ใช้พาราเบนเป็นส่วนผสม และ การอ่านฉลากส่วนผสมของเครื่องสำอางอย่างระมัดระวัง ก็สามารถบอกคุณได้ว่า ผลิตภัณฑ์นั้นมีพาราเบนหรือไม่

การศึกษาเมื่อปี 2012 ทดสอบผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค 213 ชนิดเพื่อหาสารเคมีชนิดต่างๆ 66 อย่าง รวมถึงพาราเบนสามชนิด บางอย่างก็เป็นผลิตภัณฑ์ตามปกติ บางอย่างก็บอกว่าตัวเองเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกหรือ “สีเขียว”

ในผลิตภัณฑ์ปกติ พาราเบนพบในสบู่ บอดี้โลชั่น แชมพู คอนดิชันเนอร์ โลชั่นทาหน้า เคลนเซอร์ รองพื้น ลิปสติก มาสคาร่า ผลิตภัณฑ์แต่งผม และครีมกันแดด แต่ในผลิตภัณฑ์ “สีเขียว” นักวิจัยยังพบพาราเบนและสารเคมีอื่นที่น่าเป็นห่วงจำนวนหนึ่ง แต่ก็น้อยกว่ากันมาก ฉะนั้น โดยทั่วไป เราพูดได้ว่าคุณสามารถลดระดับการเจอพาราเบนได้ ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ใช้สารเคมีน้อยลง