ปัญหาสุขภาพลำไส้ใหญ่
0 0
Read Time:5 Minute, 38 Second

ปัญหาสุขภาพลำไส้ใหญ่ เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะลำไส้ใหญ่ ก็เปรียบเสมือนถังขยะส่วนตัวใบใหญ่ของคุณ เพื่อให้ลำไส้ใหญ่ของคุณทำงานอย่างราบรื่น มาทำความรู้จักกับทุกปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ และวิธีการรับมือกับมัน

ลำไส้ใหญ่ เปรียบเสมือนถังขยะส่วนตัวใบใหญ่ของคุณ ลำไส้ใหญ่จะดูดซึมแร่ธาตุและน้ำจากอาหาร ก่อนที่จะผลักดันส่วนที่เหลือออกไปนอกร่างกาย—ไปยังที่ซึ่งมันควรจะอยู่ นั่นคือในส้วม! แต่หลายสิ่งหลายอย่างอาจผิดปกติได้ ในขั้นตอนที่ดูเรียบง่ายนี้ เพื่อให้ลำไส้ใหญ่ของคุณทำงานอย่างราบรื่น มาทำความรู้จักกับทุกปัญหาสุขภาพลำไส้ใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นได้ และวิธีการรับมือกับมัน

ปัญหาสุขภาพลำไส้ใหญ่ที่พบได้บ่อย

1 อาการลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome-IBS)

คืออะไร IBS เป็นคำที่หมอใช้เพื่ออธิบายถึงปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้ เช่น อาการท้องร่วงบ่อยๆ ท้องอืด หรือท้องผูก ที่ไม่สามารถอธิบายได้

อาการ การวินิจฉัยทางการแพทย์ ก็คือ อาการปวดท้องหรือไม่สบายท้อง อย่างน้อยเดือนละสามวันในช่วงสามเดือน รวมทั้งมีอาการเหล่านี้อย่างน้อยสองอย่างคือ อาการปวดที่ดีขึ้นหลังได้ขับถ่าย ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องความถี่ของการขับถ่าย และลักษณะของการขับถ่ายที่ต่างออกไป ในบางกรณี อาหารอาจรุนแรงจนคุณไม่อยากเดินทางไกล หรือแม้แต่ออกจากบ้าน

การรักษา อาจเป็นการให้ยา เช่น ยาทำให้อุจจาระนิ่มลง อาหารเสริมไฟเบอร์ โพรไบโอติก หรือยาแก้อาการเกร็ง เพื่อผ่อนคลายอาการปวดท้อง ยาต้านอาการซึมเศร้าแบบอ่อนๆ ก็สามารถลดความรุนแรงของอาการเจ็บปวด ที่ส่งจากลำไส้ไปสมองลงได้ คุณน่าจะลองจดไดอารี่การกิน เพื่อดูว่า อาหารอะไรที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการได้

60 เปอร์เซ็นต์

ของผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวนเป็นผู้หญิง ยังไม่มีใครแน่ใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มันอาจเป็นเพราะเซลล์ประสาทในระบบย่อยอาหารของผู้หญิงเซนซิทีฟกว่าก็เป็นไปได้

2 ท้องเสีย

คืออะไร เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่ออาหารและของเหลว ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ผนังลำไส้ใหญ่ได้ดีพอ เนื่องจากติดไวรัสที่ทำให้เกิดอาการอักเสบในล้ำไส้ สาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับไวรัสก็คือ อาหารเป็นพิษ การกินยาปฏิชีวนะบางอย่าง หรืออาการแพ้แลคโตสหรือฟรุคโตส

อาการ ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ และมักจะมีอาการปวดท้องหรือท้องอืดร่วมด้วย

การรักษา คำแนะนำโดยทั่วไปก็คือ การกินอาหารประเภท BRAT diet เช่น กล้วย ข้าว และขนมปัง หรืออาหารจืดๆ ที่มีเส้นใยอาหารต่ำ หลังถ่ายไปหลายรอบ ร่างกายจะสูญเสียเกลือแร่ในเลือด จึงต้องเติมเกลือแร่ให้ร่างกาย ด้วยอาหารที่อุดมด้วยโปแตสเซียม อย่างเช่น อะโวคาโด และเครื่องดื่มน้ำเกลือแร่ ลองปรึกษาแพทย์ ก่อนกินยาแก้ท้องเสียที่มีขายตามร้านขายยาอย่าง Imodium เพราะในขณะที่มันอาจช่วยอาการของคุณ แต่มันอาจไปรบกวนกระบวนการธรรมชาติในการกำจัดอาการติดเชื้อ ส่วนใหญ่แล้ว อาการท้องเสียจะหายไปได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง ถ้าไม่หาย ต้องไปหาหมอ หรือถ้าคุณมีเลือดออกมากับอุจจาระ หรืออุจจาระเป็นสีดำ

3 ท้องผูก

คืออะไร ในทางการแพทย์ อาการท้องผูกหมายถึง การถ่ายน้อยกว่าหนึ่งวันในเวลาห้าวัน แต่การขับถ่ายที่ปกติสำหรับทุกคน อาจไม่เหมือนกัน บางคนอาจถ่ายเป็นประจำ แต่ก็ยังรู้สึกว่าท้องผูก เพราะรู้สึกว่าแต่ละครั้งขับถ่ายได้ยาก

อาการ อุจจาระของคุณจะแข็งและแห้ง คุณจึงขับถ่ายออกมาได้ยาก และอาจจะเจ็บปวด คุณยังรู้สึกท้องบวมอืด หรือรู้สึกไม่ค่อยสบายบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง

การรักษา ไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารคือตัวช่วยของคุณ เนื่องจากมันจะทำให้อุจจาระอ่อนตัวลง ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น พยายามกินไฟเบอร์ให้ได้อย่างน้อย 25 กรัมต่อวัน (แอปเปิลขนาดกลางลูกหนึ่งมีไฟเบอร์ 4.4 กรัม ถั่วดำต้มสุก 1 ถ้วยมีไฟเบอร์ราว 15 กรัม) หรือ 21 กรัม ถ้าคุณอายุมากกว่า 50 แค่ต้องดื่มน้ำเยอะๆ ด้วย เนื่องจากถ้าไม่มีน้ำ ไฟเบอร์อาจกลับทำให้การขับถ่ายช้าลงได้ และอย่าได้อั้นเอาไว้เวลาปวดอุจจาระ เพราะมันอาจทำให้คุณท้องผูกเรื้อรังได้ เนื่องจากเมื่ออุจจาระอยู่ในลำไส้ของคุณนานขึ้น ของเหลวจะถูกดูดซึมออกไป จนกระทั่งอุจจาระแห้งและแข็ง ทำให้ยิ่งขับถ่ายยาก แต่ถ้าคุณถ่ายยากจริงๆ ลองกินยาที่ช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น กาแฟก็ใช้ได้ผลในการกระตุ้นการทำงานของลำไส้ แต่ถ้าคุณท้องผูกเป็นประจำ ควรลองปรึกษาแพทย์ให้จ่ายยาให้

ปัญหาสุขภาพลำไส้ใหญ่

ลองนวดดู

จากการศึกษาในสวีเดนเมื่อปี 2009 เผยว่าการนวดท้องแบบง่ายๆ สามารถช่วยคลายอาการท้องผูกได้ วิธีการก็คือ ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้าง นวดหน้าท้องของคุณจากซี่โครงเข้ามายังจุดที่ต่ำกว่าสะดือราวหนึ่งนิ้วสัก 6 ครั้ง จากนั้น ก็นวดเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาอีก 6 ครั้ง ทำซ้ำแบบนี้สัก 10 นาที

4 ริดสีดวงทวาร

คืออะไร ถ้าคุณเคยตั้งครรภ์ คุณอาจเป็นโรคนี้ได้ จากแรงกดที่เพิ่มขึ้นที่เส้นเลือดบริเวณส่วนปลายลำไส้ใหญ่ จากอาการอักเสบของเส้นเลือดหรือผิวหนังบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย หรืออาจเพราะการต้องเบ่งหนักๆ เนื่องจากโรคลำไส้แปรปรวนหรือท้องผูก

อาการ คุณอาจมีเลือดสีแดงสดติดออกมาตอนเช็ดก้น หรือหยดลงในโถส้วม แต่ไม่มีอาการอื่น ไม่อย่างนั้นคุณก็อาจรู้สึกคันหรือระคายเคืองบริเวณทวารหนัก หรือรู้สึกเหมือนอุจจาระไหลออกมา

การรักษา ไปพบแพทย์ ถ้าไม่เป็นมาก ก็สามารถรักษาได้ด้วยการกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูง (เพื่อป้องกันท้องผูก และทำให้ไม่ต้องเบ่งอุจจาระ) และสามารถใช้ยาที่ซื้อได้ตามร้านขายยาเพื่อบรรเทาอาการคันหรือระคายเคือง ถ้าริดสีดวงทวารโผล่ออกมานอกทวารหนัก แพทย์จะใช้ยางรัดมันไว้เพื่อไม่ให้เลือดมาเลี้ยง และในที่สุดมันก็จะหลุดออกมาเอง แต่ถ้านั่นไม่ได้ผล ก็อาจต้องใช้การผ่าตัด

ปวดแบบนี้ต้องระวัง : โรคถุงหนังลำไส้ใหญ่อักเสบ (Diverticulosis) เป็นอาการที่เกิดมีถุงเล็กๆ ขึ้นมาในลำไส้ของคุณ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่วัยมากกว่า 45 ปกติคุณจะไม่รู้ตัวหรอกว่ามีถุงอยู่ในลำไส้ แต่เมื่อมันเกิดติดเชื้อขึ้นมา คุณก็จะเกิดปวดท้อง (ปกติทางด้านซ้าย) ที่มากพอจะทำให้คุณต้องเข้าห้องฉุกเฉินเลยล่ะ แต่อย่ากังวลไป ยาปฏิชีวนะสามารถช่วยได้

อย่าได้ตามเทรนด์สวนล้างลำไส้ใหญ่

เซเลบอย่างเช่น มาดอนน่า และเจเน็ต แจ๊คสัน มีรายงานว่าเข้ารับการสวนล้างลำไส้ใหญ่ (colonics) ซึ่งกระบวนการนี้อยู่บนทฤษฎีที่ว่าสารพิษที่สะสมอยู่ในลำไส้ของคุณ เป็นเหตุให้เกิดอาการหลายอย่าง ทั้งน้ำหนักขึ้นและอ่อนเพลีย และควรต้องกำจัดทิ้งไป แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จำนวนไม่น้อยที่บอกว่ามันเป็นเรื่องไม่จริง และในการรีวิวของมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์เมื่อปี 2011 ก็สรุปว่า การสวนล้างลำไส้ใหญ่ไม่มีประโยชน์อะไร และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่างไปจนถึงการเสียชีวิตเลย

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *