4 ความเชื่อผิดๆ เรื่องผู้หญิงยกน้ำหนักที่ควรเลิกเชื่อได้แล้ว

Read Time:5 Minute, 0 Second

ความเชื่อผิดๆ เรื่องผู้หญิงยกน้ำหนัก อย่างเช่น ยกน้ำหนักแล้วจะล่ำบึ้กน่าเกลียด และอื่นๆ เป็นเรื่องที่คุณต้องคิดเสียใหม่ ถ้าอยากปลดล็อกระบบเผาผลาญให้วิ่งฉิว และเริ่มผอม!!

อย่าบอกว่าได้ยินบ่อยแล้ว เพราะคุณต้องได้ยินอีกเป็นล้านๆ ครั้ง “คุณต้องยกน้ำหนัก”! การสร้างกล้ามเนื้อไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายกระชับ และเร่งการเผาผลาญ แต่ยังทำให้สุขภาพหัวใจ กระดูก และข้อต่อต่างๆ ดีขึ้นด้วย แต่พวกสาวๆ จำนวนมากก็ยังไม่อยากจะย่างกรายเข้าห้องยกน้ำหนักในยิมอยู่ดีนั่นแหละ นั่นก็เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะกลัว ไม่อยากบาดเจ็บ และกลัวว่าตัวเองจะมีกล้ามเนื้อใหญ่เกินไป ซึ่งเหล่านี้เป็น ความเชื่อผิดๆ เรื่องผู้หญิงยกน้ำหนักที่ส่งต่อๆ กันมานั่นเอง

ผู้หญิงเราก็เลยอยู่แต่กับคลาสโยคะหรือแอโรบิก โดยไม่ได้รู้เลยว่ามันเป็นการออกกำลังที่มีพลังน้อยกว่า เพราะเป็นคลาสที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความอดทนของกล้ามเนื้อ หรือความสามารถที่จะใช้กล้ามเนื้อได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะหมดแรง แต่ไม่ได้เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ในการสร้างความแข็งแรง คุณต้องใช้ท่าเคลื่อนไหวที่มีแรงต้าน (จากน้ำหนักตัวหรืออุปกรณ์ยกน้ำหนักทั้งหลาย) ด้วย แต่ได้เวลาเพิ่มกล้ามเนื้อกันหน่อยแล้ว มาเผชิญหน้ากับความกลัว เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย ด้วยการจัดการกับ ความเข้าใจผิดเรื่องการยกน้ำหนักของสาวๆ ทั้ง 4 เรื่องนี้กันได้แล้ว!

ความเชื่อผิดๆ เรื่องผู้หญิงยกน้ำหนัก

1 คุณไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

การยกน้ำหนักไม่ใช่อะไรที่สาวๆ เติบโตมากับมัน เราไม่รู้ว่าจะต้องใช้น้ำหนักเท่าไหร่ ไม่รู้วิธีที่จะใช้มัน หรือกล้ามเนื้อกลุ่มไหนที่ต้องบริหาร

ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องฉลาดนะที่จะไม่กระโจนเข้าหาการยกน้ำหนักเร็วเกินไป เพราะเรื่องง่ายๆ อย่างการไม่รู้วิธีปรับความสูงที่นั่ง หรือการปรับตำแหน่งเครื่องยกน้ำหนัก อาจทำให้คุณไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อที่ถูกต้อง และอาจนำไปสู่การบาดเจ็บได้ เพื่อที่จะทำความรู้จักักบอุปกรณ์ต่างๆ ในยิม ลองถามเทรนเนอร์ที่ดูแลอยู่ในยิมได้เลย พวกเขามีหน้าที่ช่วยให้คำแนะนำอยู่แล้ว

เคล็ดลับดีๆ สำหรับมือใหม่ : เริ่มด้วยการใช้น้ำหนักของร่างกายเป็นแรงต้าน ฝึกจนกระทั่งคุณเริ่มเคลื่อนไหวได้คล่อง แล้วค่อยเพิ่มน้ำหนักเข้าไปสัก 5 ปอนด์ เมือเริ่มรู้สึกยกได้สบายแล้ว ก็เพิ่มมันขึ้นไป จำไว้ว่าเวลายกสองสามครั้งสุดท้าย คุณต้องรู้สึกว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

2 คุณกลัวว่าจะล่ำขึ้น

พูดตามเรานะ–การยกน้ำหนักจะไม่ทำให้คุณกลายเป็น อาร์โนลด์ ชวาร์ซเนกเกอร์ ไปได้!การที่ผู้หญิงจะล่ำขึ้นได้จากการยกน้ำหนักนั้น ต้องการ 3 ปัจจัยที่จะทำให้ล่ำขึ้นได้นั่นก็คือ เทสโทสเตอโรน (ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ชายมีกล้ามเนื้อใหญ่กว่า) แคลอรี่ที่เพิ่มขึ้น และการฝึกอย่างหนัก (หมายความว่าคุณต้องฝึกกลุ่มกล้ามเนื้อใหญ่แต่ละกลุ่มจนกระทั่งรู้สึกล้า ด้วยการออกกำลัง 20-30 เซ็ทต่อวัน) และมันเป็นข้อเท็จจริงทางชีววิทยาง่ายๆ อยู่แล้วโดยธรรมชาติว่า ผู้หญิงไม่มีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนพอที่จะสร้างกล้ามเนื้อใหญ่ยักษ์

ฉะนั้น อย่าใช้แต่น้ำหนักเบาๆ เกินไป เพื่อบังคับให้กล้ามเนื้อต้องซ่อมแซมตัวเองและสร้างขึ้นมาใหม่ คุณต้องการแรงต้านที่ทำให้กล้ามเนื้อรู้สึกล้าๆ ในราว 90 วินาทีต่อเซ็ท การยกลูกเหล็กเช่นนี้ แค่สองครั้งต่อสัปดาห์สามารถลดไขมันในร่างกายโดยรวมลงได้ราว 3 เปอร์เซ็นต์ใน 10 สัปดาห์ แปลว่าคุณจะเพรียวขึ้น ไม่ใช่ตัวใหญ่ขึ้น

3 เข้าไปยกน้ำหนักทีไรมีแต่คนมองแปลกๆ

เมื่อนึกภาพตัวเองเดินเข้าไปในห้องยกน้ำหนักในยิม แล้วใครๆ ต่างก็หันมามองคุณเป็นตาเดียวกัน! มันน่ากลัวจริงๆ นะ แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าที่จริงแล้ว ทุกคนมักจะสนใจสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ (โดยเฉพาะการยกน้ำหนัก ที่ต้องรักษาตำแหน่งร่างกายให้ถูกต้องเสมอ) มากกว่าที่จะสนใจคนอื่น แต่เพื่อบรรเทาความไม่มั่นใจ การเตรียมพร้อมจะช่วยได้ ลองเขียนสิ่งที่อยากจะทำ ก่อนเดินเข้าไปในยิม เมื่อคุณรู้ว่าจะทำอะไร ก็จะเขินน้อยลง แต่ถ้ายังไม่มั่นใจ ก็ลองเปลี่ยนไปยิมตอนที่คนน้อยหน่อย หรือแอบไปฝึกท่าทางการยกน้ำหนัก ในที่ซึ่งคนน้อยกว่า เช่น ห้องสตูดิโอที่ไม่มีคน หรือไม่ก็หันมาผูกมิตรกับคนทีอยู่ในยิมซะ การไปยิมเวลาเดิมๆ คุณก็มักจะเจอผู้คนหน้าตาเดิมๆ เมื่อเริ่มรู้จักกันแล้ว คุณก็จะเกร็งน้อยลง

4 คุณกลัวว่าจะไม่เผาผลาญแคลอรี่มากพอ

มีไม่กี่เรื่องที่ทำให้มีความสุขได้มากไปกว่าการขึ้นไปบนลู่วิ่ง วิ่งไปครึ่งชั่วโมง แล้วก็มองเห็นตัวเลขบนหน้าจอว่า คุณได้เผาผลาญไปแล้ว 330 แคลอรี่ น่าเศร้าที่การยกน้ำหนักไม่มีจอให้อ่านได้แบบนั้น แต่การยกน้ำหนักมีข้อดีที่ซ่อนอยู่ก็คือ มันใช้พลังงาน (หรือแคลอรี่) จำนวนมาก เพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อหลังการออกกำลัง ซึ่งจะเพิ่มอัตราการเผาผลาญในช่วงขณะพักของคุณไปอีกสองสามวันหลังจากนั้น

โดยการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่ยกน้ำหนักเพียงแค่ 15 นาที เผาผลาญเพิ่มขึ้นราว 100 แคลอรี่ ในวันถัดมาหลังจากการออกกำลัง เมื่อเทียบกับวันที่ไม่ได้ยกน้ำหนัก ข้อดีอีกอย่างก็คือ เมื่อคุณแข็งแรงมากขึ้น คุณจะใช้กล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่งช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้นในระหว่างเล่นคาร์ดิโอ และท้ายสุดก็คือ ยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะทุกอย่างที่เราทำในชีวิตประจำวันต่างต้องใช้ความแข็งแรงในระดับหนึ่งทั้งนั้น ฉะนั้น เมื่อเราเพิ่มความแข็งแรงขึ้นมา ทุกอย่างที่เราทำในชีวิตเรา ก็จะง่ายขึ้นมาก