น้ำส้มสายชูแอปเปิล
0 0
Read Time:6 Minute, 8 Second

น้ำส้มสายชูแอปเปิล เป็นสิ่งที่คุณอาจมีอยู่ในครัวคุณอยู่แล้ว มันเป็นเครื่องปรุงที่ช่วยชูรสอาหารได้แน่อยู่แล้ว แต่ในเรื่องคุณประโยชน์อย่างอื่นต่อสุขภาพที่เล่าลือกันนั่นล่ะ—จริงหรือเปล่า?

เป็นเวลานานมาแล้ว ที่น้ำส้มสายชูถูกทำขึ้นจากวัตถุดิบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอินทผลัม แตง มะพร้าว น้ำผึ้ง เบียร์ เมเปิลไซรัป มันฝรั่ง มอลต์ แต่ในกระบวนน้ำส้มสายชูทั้งหลายแหล่นี้ น้ำส้มสายชูแอปเปิล เป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก ในการเยียวยารักษาโรคในยุคปัจจุบัน

น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลถูกใช้มาแต่โบราณ แต่เริ่มมาเปล่งแสงความเป็นซูเปอร์สตาร์ ในทศวรรษ 1950 เมื่อ D.C. Jarvis เขียนยกย่องมันในหนังสือขายดีเรื่อง “Folk Medicine: A Vermont Doctor’s Guide to Good Health” และตอนนี้ มันก็กลายเป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่มีอำนาจอัศจรรย์ สามารถรักษาได้ทุกอย่างตั้งแต่หูดไปจนถึงเบาหวาน ถึงแม้หลายเรื่องจะยังไม่ได้รับการศึกษาวิจัยอย่างมากพอ แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญบางคนที่เชื่อว่า การเติมของเหลวรสเปรี้ยวนี้เข้าสู่ชีวิตของเรา อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพได้จริงๆ

เรามาสำรวจกันดีกว่าว่า พลังอำนาจของน้ำส้มชนิดนี้ เรื่องไหนที่ได้รับการรับรองในทางวิทยาศาสตร์บ้าง

น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลกับการลดน้ำหนัก

คุณคงเคยได้ยินเรื่องที่ว่า น้ำส้มสายชูชนิดนี้ช่วยคุณลดน้ำหนักได้ มันยังมีงานวิจัยในเรื่องนี้น้อยมาก การศึกษาเพียงชิ้นเดียวที่พิสูจน์ความคิดนี้ในคนจัดทำขึ้นในญี่ปุ่น โดยให้คนอ้วนแต่สุขภาพดี 175 คน กินน้ำส้มสายชูหรือไม่ก็น้ำเปล่าทุกวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ส่วนอาหารการกินอย่างอื่นเหมือนกัน แต่ละคนต่างจดไดอารี่เรื่องกินเหมือนกัน ในตอนจบ คนที่กินน้ำส้มสายชูลดน้ำหนักได้มากกว่า โดยเฉลี่ยกลุ่มที่กินน้ำส้มสายชูลดน้ำหนักได้ 1-2 ปอนด์ในช่วงเวลาสามเดือน แต่พวกเขาก็น้ำหนักกลับมาเท่าเดิมเมื่องานวิจัยจบลง

นักวิจัยชี้ว่าน้ำส้มสายชูอาจส่งผลกระทบต่อยีนบางตัว ในเรื่องของการย่อยสลายไขมัน แต่ผลกระทบอาจเล็กน้อยมาก มันอาจมีผลต่อการลดน้ำหนัก และการควบคุมน้ำหนักอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาน้ำหนักตัวแบบด่วนๆ อย่างแน่นอน ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก คุณก็จึงยังต้องออกกำลังและควบคุมปริมาณการกินอยู่ดี แต่อาจลองกินน้ำส้มสายชูชนิดนี้เป็นอาหารเสริมก็ได้

น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลกับน้ำตาลในเลือด

ในขณะที่น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลอาจไม่ทำให้คุณผอมเพรียวได้ทันใจ แต่มันปรากฏว่าสามารถช่วยได้ในเรื่องเบาหวาน และการควบคุมน้ำตาลในเลือด โดย ดร.แครอล จอห์นสตัน ผู้อำนวยการโปรแกรมโภชนาการ ของมหาวิทยาลัยอริโซนาสเตทในสหรัฐฯ ซึ่งศึกษาเรื่องของน้ำส้มสายชูจากแอปเปิลมามากกว่า 10 ปี เชื่อว่า ผลกระทบของมันต่อน้ำตาลในเลือดนั้น เทียบได้กับการกินยาเลยทีเดียว

เธออธิบายว่า น้ำส้มสายชูจะเข้าไปบล็อกการย่อยแป้ง มันไม่ได้บล็อกแป้ง 100% แต่มันช่วยป้องกันไม่ให้แป้งบางส่วนถูกย่อย และทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้อย่างแน่นอน

แต่ก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่เชื่อมั่นในพลังของน้ำส้มสายชูชนิดนี้ โดย นพ.ไมเคิล เดนซิงเกอร์ ผู้อำนวยการโปรแกรมการดูแลการใช้ชีวิตของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ของมหาวิทยาลัยทัฟท์ ในสหรัฐฯ ชี้ว่า การพยายามใช้น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลเพื่อรักษาโรคเบาหวานนั้น ก็เหมือนการพยายามใช้ช้อนชาตักน้ำที่ท่วมอยู่ออกไป ซึ่งไม่ทำให้ได้ผลอะไรดีขึ้น เขาแนะนำให้คนไข้ของเขาสนใจเรื่องอาหารการกินของตัวเองโดยรวมจะดีกว่า เพราะเป็นวิธีการที่มีข้อมูลงานวิจัยต่างๆ รองรับมากกว่า

ถ้าคุณมีปัญหากระเพาะอาหารทำงานน้อยลง ซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนที่พบกันได้บ่อยในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ก็ยิ่งต้องระวัง เพราะการศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลอาจทำให้ปัญหานี้เลวร้ายลงก็ได้ นพ.เดนซิงเกอร์เป็นห่วงว่า การดื่มน้ำส้มสายชูชนิดนี้ที่แม้จะเจือจางด้วยน้ำก็ตาม สามารถเพิ่มกรดในระบบร่างกาย ทำให้ไตทำงานหนัก และอาจมีปัญหากับกระดูกได้

ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวาน และอยากพยายามลองดื่มน้ำส้มสายชูจากแอปเปิล ควรแจ้งให้แพทย์ของคุณทราบด้วย เพื่อที่จะได้จับตาดูระดับน้ำตาลในเลือดเป็นพิเศษ โดยจอห์นสตันย้ำว่า ถ้าคุณกินยาเพื่อรักษาเบาหวาน คุณไม่ควรหยุดยาและมากินน้ำส้มสายชูแทน และถ้าคิดที่จะใช้น้ำส้มสายชูจากแอปเปิล เพื่อช่วยจัดการเรื่องระดับน้ำตาลเลือด ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนด้วย

น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลกับการย่อยอาหาร

ดร.จอห์นสตันให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ถ้าคุณกินน้ำส้มสายชูจากแอปเปิลคู่กับอาหารที่เป็นแป้ง แป้งที่คุณไม่ได้ย่อยก็จะเป็นอาหารของแบคทีเรียดีในลำไส้ของคุณ โดยเธอแนะนำให้เลือกกินน้ำส้มสายชูแอปเปิลแบบขุ่นๆ ที่มีเส้นใยแขวนลอยอยู่ในน้ำส้มที่เรียกกันว่า “the mother” เพราะมันอุดมไปด้วยโพรไบโอติกและแบคทีเรียที่มีประโยชน์อื่นๆ น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลชนิดนี้สามารถช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และสำหรับบางคนช่วยในเรื่องท้องผูกได้ด้วย

เคล็ดลับในการกิน

อย่าดื่มแบบเข้มข้น มันมีความเป็นกรดสูง ที่อาจทำลายเคลือบฟันและหลอดอาหารได้ และอย่ากินเยอะ ให้เจือจางน้ำส้มสายชูแอปเปิล 1 หรือ 2 ช้อนชาผสมกับน้ำแก้วใหญ่ๆ และจิบมันคู่กับการกินอาหารวันละหนึ่งหรือสองครั้ง

น้ำส้มสายชูแอปเปิล

8 วิธีใช้น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลในชีวิตประจำวัน

1 ล้างเส้นผม กำจัดคราบตกค้างจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้กับเส้นผมด้วยการใช้น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลล้างเส้นผม โดยผสมกับน้ำเปล่าและใช้ล้างเส้นผมเป็นน้ำสุดท้าย มันจะทำให้เส้นผมเงางามขึ้น ช่วยปิดเกล็ดผม และกระตุ้นหนังศีรษะ ช่วยทำให้ผมยาวเร็ว

2 โทนเนอร์ คนที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบยกนิ้วให้น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลในเรื่องการลดอาการอักเสบ โดยหยดลงบนสำลีสองสามหยด แล้วใช้ทาบริเวณทีโซนหรือบริเวณอื่น เพื่อป้องกันสิวและลดรอยสิว สการ์เล็ต โจแฮนสัน ก็ใช้เคล็ดลับนี้

3 บ้วนปาก ผสมน้ำส้มสายชูจากแอปเปิลกับน้ำเปล่า แล้วใช้กลั้วปาก คุณสมบัติในการต้านเชื้อจะช่วยขจัดคราบพลัค และแบคทีเรียที่ทำให้มีกลิ่นปาก

4 อาบน้ำ เทน้ำส้มสายชูจากแอปเปิลสักสองฝาลงในน้ำสำหรับแช่ตัว มันจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย และทำให้ผิวชุ่มชื้น

5 กำจัดหูด วางสำลีที่ชุบน้ำส้มสายชูจากแอปเปิลชุ่มๆ ลงบริเวณที่เป็นหูด แล้วใช้ผ้าพันแผลพันทับ ทิ้งไว้ข้ามคืน และเอาออกในตอนเช้า ทำอย่างนี้ตือเนื่องกันสักหนึ่งสัปดาห์ คุณจะเริ่มเห็นผล แต่อย่าพยายามแกะหูดจากผิวหนัง ปล่อยให้มันแห้งและหลุดออกมาเอง

6 แช่เท้า หลังจากใช้เท้ามาตลอดทั้งวัน แช่เท้าในน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูจากแอปเปิล มันจะผ่อนคลายอาการเมื่อยและบวมได้

7 รักษาจุดด่างดำและเส้นเลือดขอด ด้วยการทาน้ำส้มสายชูลงบริเวณที่ต้องการก่อยเข้านอนในตอนกลางคืน

8 ดับกลิ่นตัว ใช้ทาบางๆ ที่ใต้วงแขน มันช่วยระงับกลิ่นกายแทนโรลออนราคาแพงได้เลย

“การกินน้ำส้มสายชูแอปเปิลจำนวนเล็กน้อยไม่มีอะไรเสี่ยง แต่การกินเป็นจำนวนมากเป็นประจำอาจทำให้เกดิปัญหาได้แน่อน เพราะมันมีกรดสูง และทำให้เกิดปัญหาได้ตั้งแต่การทำลายฟัน ไปจนถึงทำให้ระดับโปตัสเซียมในร่างกายและมวลกระดูกลดลง และมีปฏิกิริยาต่อยาบางชนิด”

เมโยคลินิก
Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *