ชาดอกไม้
0 0
Read Time:12 Minute, 27 Second

ดอกไม้ไม่เพียงแต่สวยงาม และมีกลิ่นหอม แต่บางชนิดยังสามารถนำมาบริโภคได้ ในรูปแบบของชาดอกไม้ ที่เปี่ยมด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ

ใครๆ ก็ชอบดอกไม้ ดอกไม้เป็นหนึ่งในความสวยงาม ที่ธรรมชาติมอบให้แก่มนุษย์ทุกคน แต่คุณค่าของดอกไม้ ก็ไม่ได้อยู่แค่รูปลักษณ์ที่สวยงาม หรือกลิ่นที่หอมหวล ดอกไม้หลายชนิดยังสามารถบริโภคได้ และมีคุณค่าต่อสุขภาพอย่างที่ใครก็อาจนึกไม่ถึง การแพทย์แผนโบราณในหลายๆ วัฒนธรรม ต่างก็ใช้ดอกไม้เพื่อการเยียวยารักษาโรค และในปัจจุบันก็มีงานศึกษาวิจัยจำนวนไม่น้อย ที่รองรับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพของดอกไม้หลายชนิด

หนึ่งในวิธีการบริโภคดอกไม้ที่นิยมกันมากที่สุด ก็คือการนำเอามาทำเป็นเครื่องดื่ม ถึงแม้เราจะชอบเรียกกันว่า “ชาดอกไม้” แต่เครื่องดื่มจากกลีบดอกไม้ชนิดนี้ ปราศจากคาเฟอีนแบบเดียวกับชา จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีน และยังได้รับประโยชน์สุขภาพอีกหลายๆ อย่างด้วย

ชาดอกไม้ยอดนิยมที่คุณควรลอง

1 ชาดอกคาโมมายล์

ชาดอกไม้

คาโมมายล์ เป็นพืชในวงศ์เดียวกับดาวเรืองและดาวกระจาย มี 2 สายพันธ์ุคือ เยอรมันคาโมมายล์และโรมันคาโมมายล์ แต่ที่นิยมใช้กันมากกว่าคือ เยอรมันคาโมมายล์ ดอกแห้งของคาโมมายล์มีส่วนประกอบของเทอร์พีนอยด์ (Terpenoids) และฟลาโวนอยส์ (Flavonoids) หลายชนิด ซึ่งทำให้ดอกคาโมมายล์มีสรรพคุณในทางยา เป็นที่นิยมใช้กันมาแต่สมัยโบราณ และนิยมนำดอกแห้งมาชงเป็นชาดอกไม้สำหรับดื่ม

ประโยชน์สุขภาพของดอกคาโมมายล์

  • ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน การศึกษาหลายชิ้นเชื่อมโยงชาคาโมมายล์กับการลดอาการปวดท้องประจำเดือน ตัวอย่างเช่นการศึกษาเมื่อปี 2010 พบว่าการดื่มชาคาโมมายล์เป็นเวลาหนึ่งเดือน สามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้
  • ช่วยลดน้ำตาลในเลือด การศึกษาวิจัยบางชิ้นพบว่า ชาคาโมมายล์ช่วยลดน้ำตาลในเลือดในคนที่เป็นโรคเบาหวาน เช่นเดียวกับงานวิจัยในปี 2008 ในหนูทดลองพบว่า การบริโภคชาคาโมมายล์เป็นประจำ อาจช่วยป้องกันไม่ให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวานในระยะยาวได้
  • ช่วยชะลอหรือป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคนี้เกิดจากการสูญเสียมวลกระดูก ทำให้เพิ่มความเสี่ยงที่กระดูกจะแตกหัก ซึ่งเป็นอาการที่เกิดได้กับทุกคน แต่มีแนวโน้มจะเกิดกับหญิงวัยหมดประจำเดือนมากที่สุด เนื่องมาจากผลกระทบของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง โดยการศึกษาเมื่อปี  2004 พบว่าชาคาโมมายล์อาจต่อต้านผลกระทบของเอสโตรเจนได้ อาจช่วยส่งเสริมการสร้างกระดูก แต่ก็ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้
  • ช่วยลดอาการอักเสบ อาการอักเสบเป็นปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันที่ต่อสู้กับการติดเชื้อ ซึ่งการอักเสบในระยะยาวเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพอื่นๆ อีกหลายอย่างมาก รวมถึงโรคซึมเศร้าด้วย โดยมีการศึกษาวิจัยชี้ว่า ชาคาโมมายล์มีสารประกอบที่อาจช่วยลดอาการอักเสบได้
  • รักษาและป้องกันมะเร็ง การศึกษาวิจัยเมื่อปี 2012 คาโมมายล์อาจทำลายเซลล์มะเร็ง หรือแม้แต่ป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งพัฒนาตัวขึ้นได้ตั้งแต่แรกเริ่ม อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังไม่ระบุชัดเจน และอาจต้องการข้อพิสูจน์เพิ่มเติมในเรื่องนี้ 
  • ช่วยในเรื่องการนอนหลับและการผ่อนคลาย คุณสมบัตินี้เป็นที่กล่าวขานกันมากที่สุด โดยในการรีวิวชิ้นหนึ่ง คนไข้ 10 ใน 12 คนที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจบอกว่า ผล็อยหลับไปหลังจากที่ดื่มชาคาโมมายล์ไม่นาน และการศึกษาอื่นอีกหลายชิ้นก็ชี้ว่า ชาคาโมมายล์อาจช่วยให้คนผ่อนคลายได้จริงๆ ซึ่งนักวิจัยจำนวนมากเชื่อว่า ชาคาโมมายล์อาจมีการทำงานคล้ายกับเบนโซไดอะปีน (Benzodiazepines) ยาในกลุ่มยานอนหลับซึ่งต้องให้แพทย์สั่งจ่าย ที่สามารถลดความวิตกกังวลและช่วยให้นอนหลับได้

2 ชาดอกเก๊กฮวย

ชาดอกไม้

ดอกเก๊กฮวย ประกอบด้วยสารอาหารจำนวนมาก ทั้งวิตามินบี9 แมงกานีส ธาตุเหล็ก ทองแดง วิามินบี6 วิตามินเอ โปแตสเซียม และแคลเซียม เป็นดอกไม้ที่ใช้ในการแพทย์แผนจีนมานานแล้ว โดยการแพทย์แผนจีน ซึ่งจัดประเภทของสมุนไพรตามคุณสมบัติด้านพลังงาน มากกว่าประกอบทางเคมี จัดให้ดอกเก๊กฮวยเป็นดอกไม้ที่คุณสมบัติเย็น และสัมพันธ์กับพลังงานที่เกี่ยวเนื่องกับปอด ตับ ม้าม และไต จึงใช้ในการลดอาการไข้และหวัด ปัญหาระบบทางเดินหายใจ ความดันโลหิตสูง และไฮเปอร์ไทรอยด์

ประโยชน์สุขภาพของดอกเก๊กฮวย

  • ช่วยรักษาผดผื่นจากความร้อน ดอกเก๊กฮวยมีฤทธิ์เย็น ในทางการแพทย์แผนจีนเชื่อว่า ความไม่สมดุลของเคมีในร่างกาย เป็นสาเหตุหลักของการเกิดผื่นจากความร้อน การดื่มชาดอกเก๊กฮวย จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการนี้ แต่ไม่ควรดื่มแบบที่ใส่น้ำตาล เพราะน้ำตาลอาจทำให้เกิดความร้อนในร่างกายได้
  • ช่วยลดอาการอักเสบ งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า สารสกัดทางเคมีบางอย่างของดอกเก็กฮวยช่วยลดอาการอักเสบได้ การแพทย์แผนจีนจึงมักใช้ชาดอกเก๊กฮวยในการลดอาการบวมและอักเสบในคอและอาการระคายเคืองในปอด
  • ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ดอกเก๊กฮวยมีสรรพคุณในการช่วยลดความดันโลหิต ทำให้ร่างกายเย็น และลดอาการอักเสบ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสงบได้ ชาดอกเก๊กฮวยจึงมักนิยมใช้ดื่มเพื่อสร้างความผ่อนคลาย
  • ช่วยเสริมสุขภาพหัวใจ ศูนย์มะเร็ง Memorial Sloan-Kettering ในสหรัฐฯ รายงานว่า อาหารเสริมดอกเก๊กฮวยช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตของหลอดเลือดหัวใจ และการซึมผ่านของผนังหลอดเลือดหัวใจ และจากเว็บไซต์ Herbs 2000 การทดลองในประเทศจีนและญี่ปุ่นชี้ว่า ดอกเก๊กฮวยมีประสิทธิภาพในการลดความดันโลหิต และลดอาการหลายอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับความดันโลหิต เช่น อาการเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หรือนอนไม่หลับ การศึกษาเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึง คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการเจ็บหน้าอกที่เกิดมาจากโรคหลอดเลือดหัวใจได้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
  • ช่วยรักษาสุขภาพตา การแพทย์แผนจีนเชื่อว่า ดอกเก๊กฮวยเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตา จากการที่มีฤทธิ์เย็น ดอกเก๊กฮวยช่วยต่อต้านอาการผิดปกติหลายอย่างของดวงตา เช่น ตาแดง คัน หรือแห้ง นอกจากนี้เก๊กฮวยยังมีเบต้าแคโรทีนสูง รวมทั้งวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพดวงตาอีกด้วย
  • ช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ ชาเก๊กฮวยเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินบีหลายชนิด อย่างเช่นโคลีน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการสร้างและการแบ่งตัวของเซลล์ รวมถึงช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมัน นอกนี้ยังมีไนอะซิน ไรโบฟลาวิน และโฟลิค วิตามินเหล่านี้จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ในการพัฒนา และสร้างฮฮร์โมน การไหลเวียนโลหิต และการทำงานของระบบประสาท

3 ชาดอกลาเวนเดอร์

ชาดอกไม้

ลาเวนเดอร์เป็นดอกไม้พื้นถิ่นของแถบเมดิเตอร์เรเนียนและแอฟริกาเหนือ ขึ้นชื่อในเรื่องของกลิ่นหอม ซึ่งมักนำมาใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น หากไม่เพียงแต่กลิ่นหอมอันโดดเด่น ลาเวนเดอร์ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพหลายอย่าง และถูกใช้ในการเยียวยาและรักษาโรคมาตั้งแต่สมัยโบราณ การบริโภคลาเวนเดอร์ในรูปแบบของชา ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ประโยชน์แก่สุขภาพของเราได้

ประโยชน์สุขภาพของดอกลาเวนเดอร์

  • ช่วยในการนอนหลับ ประโยชน์ที่รู้จักกันดีที่สุดทางด้านสุขภาพของลาเวนเดอร์ก็คือ คุณสมบัติในการทำให้รู้สึกสงบ สามารถช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น และอาจช่วยรักษาโรคนอนไม่หลับได้ การดื่มชาลาเวนเดอร์ก่อนเข้านอนอาจสามารถช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น โดยชาลาเวนเดอร์สามารถช่วยในเรื่องการนอนหลับได้ก็เนื่องจากมันมีสารอาหารอย่างเช่น ซิงค์ โปตัสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งการศึกษาวิจัยเมื่อปี 2017 ในวารสาร International Journal of Molecular Science เผยว่าหนูทดลองที่ได้รับซิงค์สามารถนอนหลับได้ดีขึ้นและนานขึ้นกว่าปกติ
  • ช่วยต้านอาการอักเสบ ลาเวนเดอร์ขึ้นชื่อในเรื่องสรรพคุณการต้านอาการอักเสบ และทีมวิจัยจาก Graduate School of Health Science แห่งมหาวิทยาลัยโอกายามะในประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ทำการศึกษาถึงสรรพคุณการต้านอาการอักเสบของลาเวนเดอร์ต่อโรคหอบหืด และพบผลในแง่บวกของลาเวนเดอร์ที่มีต่อโรคนี้ ซึ่งสามารถใช้เป็นการรักษาทางเลือกได้
  • เสริมสุขภาพภูมิคุ้มกัน ลาเวนเดอร์มีแอนตี้ออกซิแดนท์ในปริมาณสูง และสารประกอบต้านแบคทีเรีย ที่สามารถช่วยต่อสู้กับหวัดและไข้หวัดใหญ่ ชาลาเวนเดอร์มีวิตามินซี แคลเซียม และแมกนีเซียม ที่เป็นสารประกอบช่วยสนับสนุนการทำงานของภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสได้
  • เสริมสุขภาพระบบย่อยอาหาร ด้วยการช่วยปลอบประโลมเนื้อเยื่อในระบบย่อยอาหารทั้งโรคท้องร่วง คลื่นไส้ และปวดท้อง ด้วยสรรพคุณต้านอาการอักเสบ และสรรพคุณที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ช่วยในการกำจัดอาการปวดท้องได้ กลิ่นของลาเวนเดอร์ช่วยกระตุ้นน้ำดี ที่ช่วยร่างกายในการย่อยสลายอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น กลิ่นอันผ่อนคลายยังช่วยรักษาอาการคลื่นไส้ ด้วยการกระตุ้นปฏิกิริยาของสารเคมีในสมอง
  • เสริมสุขภาพระบบหายใจ ลาเวนเดอร์ช่วยคนที่มีปัญหาเรื่องการหายใจ ด้วยการเปิดช่องทางเดินอากาศ คุณสมบัติต้านอักเสบช่วยบรรเทากล้ามเนื้อที่อักเสบในคอและหน้าอก ทำให้หายใจได้ง่ายขึ้น คุณสมบัติแอนตี้แบคทีเรียช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหวัดและอาการแน่นหน้าอก

4 ชาดอกหอมหมื่นลี้

ชาดอกไม้

ดอกหอมหมื่นลี้ (sweet osmanthus) เป็นพืชในวงศ์มะลิที่มีถิ่นกำเนิดแถบเทือกเขาฟิมาลัยและประเทศจีน ดอกมีสีขาว หลือง หรือเหลืองส้ม ในประเทศจีนนิยมนำมาผสมในชาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และนำมาเป็นส่วนผสมของขนมเค้ก แยม และไวน์

นอกจากกลิ่นหอมที่ขึ้นชื่อแล้ว ดอกหอมหมื่นลี้ยังอุดมด้วยฟลาโวนอยส์ ที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ทรงคุณภาพ จึงมีการนำมาใช้ในการเยียวยารักษาโรคในการแพทย์แผนจีนอีกด้วย และนอกเหนือจากการดื่มชาที่มีส่วนผสมของดอกหอมหมื่นลี้แล้ว คุณยังสามารถบริโภคดอกหอมหมื่นลี้ได้โดยตรงในรูปแบบของชาดอกไม้ที่ปราศจากคาเฟอีนอีกด้วย

ประโยชน์สุขภาพของดอกหอมหมื่นลี้

  • อุดมด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ ดอกหอมหมื่นลี้อุดมด้วยสารประกอบโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารประกอบในพืชที่มีคุณสมบัติเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ โดยงานรีวิวที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Oxidative Medicine and Cellular Longevity เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2009 ชี้ว่า อาหารที่อุดมด้วยโพลีฟีนอลส์ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ
  • ช่วยลดน้ำหนัก ชาดอกหอมหมื่นลี้ไม่ได้ช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่หรือไขมัน แต่ช่วยกดอาการอยากอาหาร ที่ช่วยให้ไม่อยากกินจุบจิบและลดน้ำหนักได้ในที่สุด โดยผลจากงานวิจัยในวารสาร Journal of Scoentific Reports เมื่อปี 2013 ระบุว่า การสูดดมกลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้อาจช่วยกดความอยากอาหารได้ โดยกลิ่นของดอกหอมหมื่นลี้ช่วยลดกิจกรรมของสารเคมีในสมองที่กระตุ้นความอยากอาหาร จึงทำให้ไม่กินมากจนเกินไป
  • ช่วยขับสารพิษ การดื่มชาดอกหอมหมื่นช่วยการทำงานของตับและไต ที่ช่วยกำจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย การดื่มชนิดนี้เป็นประจำทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และมักใช้ในแพทย์แผนจีนเป็นส่วนผสมที่ช่วยทำความสะอาดเลือด
  • ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การศึกษาชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการดื่มชาดอกหอมหมื่นลี้วันละถ้วย อาจช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น และช่วยป้องกันความเครียดจากการออกซิเดชั่น
  • ลดอาการอักเสบ อาการอักเสบอย่างต่อเนื่องเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพร่างกายหลายอย่าง ดอกหอมหมื่นลี้มีคุณสมบัติในการต้านอาการอักเสบ ที่อาจช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับระบบทางเดินหายใจอย่างเช่นโรคหอบหืด
  • ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ดอกหอมหมื่นลี้เป็นที่ยิยมใช้ในการแพทย์แผนจีน เพื่อรักษาปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วงหรือปวดท้อง ลองนำไปผสมกับส่วนผสมอื่นที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารเช่น สระแหน่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

5 ชาดอกกุหลาบ

ชาดอกไม้

กุหลาบมีมากมายกว่า 130 สายพันธ์ุ ทั้งหมดกินได้ และสามารถใช้ดื่มในรูปแบบของชาได้ แต่บางพันธ์ุก็ให้รสชาติขม บางพันธ์ุก็ให้รสหวาน มีการใช้กุหลาบในการรักษาโรคมานานหลายพันปีแล้ว ด้วยประโยช์ต่อสุขภาพหลายอย่าง ซึ่งได้รับการศึกษาวิจัยแล้วในทางวิทยาศาสตร์ กลีบกุหลาบแห้ง กลีบกุหลาบอุดมด้วยวิตามินซี โพลีฟีนอลส์ วิตามินเอ แร่ธาตุหลายชนิด

ประโยชน์สุขภาพของดอกกุหลาบ

  • อุดมด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ สารประกอบหลักในชากุหลาบ ที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ คือ โพลีฟีนอลส์ อาหารที่อุดมด้วยโพลีฟีนอลส์เชื่อว่า สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด โรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 และช่วยปกป้องสมองจากโรคที่เกิดจากการเสื่อมถอย โดยในการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า สารฟีนอลและแอนตี้ออกซิแดนท์ในชากุหลาบนั้น เทียบได้เท่ากับในชาเขียวหรือมากกว่า โดยแอนตี้ออกซิแดนท์ที่พบในกุหลาบก็อย่างเช่น กรดแกลลิค ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า มีสรรพคุณต้านอักเสบ ต้านจุลินทรีย์ ต้านมะเร็ง และบรรเทาอาการปวด หรือแอนโธไซยานินส์ ที่เป็นสารเม็ดซึ่งสัมพันธ์กับสุขภาพของดวงตา และทางเดินปัสสาวะ แต่ควรทราบว่าน้ำร้อนไม่สามารถที่จะสกัดแอนตี้ออกซิแดนท์ในกุหลาบออกมาได้ทั้งหมด ที่จริงแล้วสารสกัดจากกลีบกุหลาบสามารถสกัดแอนตี้ออกซิแดนท์ออกมาได้ราว 30-50% มากกว่าชากุหลาบ
  • ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน มีการใช้กุหลาบในการแพทย์แผนจีนเพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน และมีงานวิจัยในกลุ่มวัยรุ่นไต้หวันการศึกษาชื่นหนึ่งซึ่งศึกษากลุ่มวัยรุ่น 130 คน โดยให้ดื่มชากุหลายวันละ 2 ถ้วยเป็นเวลา 12 วัน เร่มต้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนมีรอบเดือน เป็นเวลา 6 เดือน พบว่าคนที่ดื่มชามีอาการปวดน้อยลงกว่าคนี่ไม่ได้ดื่ม
  • ช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหาร คุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียของชากุหลาบ ช่วยในการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร สามารถช่วยสร้างสมดุลของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ทำให้ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ชากุหลาบยังทำหน้าที่คล้ายกับยาระบายได้ถ้าดื่มมากกว่าวันละ 2 ถ้วย
  • เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน กุหลาบอุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นหนึ่งในวิตามินที่สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เนื่องจากมันช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว และทำหน้าที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยลดความเครียดจากออซิเดชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

6 ชาดอกมะลิ

ชาดอกไม้

เราคุ้นเคยกับดอกมะลิกันดี รวมถึงการดื่มชาที่เพิ่มความหอมด้วยดอกมะลิ แต่ถ้าคุณต้องการเครื่อมดื่มที่ปราศจากคาเฟอีน คุณก็สามารถใช้ดอกมะลิแห้ง ชงเป็นชาดอกมะลิเพื่อดื่มได้เช่นกัน และได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพไม่น้อยหน้าไปกว่าดอกไม้ชนิดอื่นๆ

ประโยชน์สุขภาพของดอกมะลิ

  • เสริมภูมิคุ้มกันและลดไข้ การใช้ดอกมะลิในทางยาได้รับการบันทึกมานานแล้ว สารออกฤทธิ์สำคัญในดอกมะลิคือ ไลนาโลออล (linalool) เบนโซอิกอะซิเทต (benzoic acetate) อินโดล (indole) จัสมอน (jasmon) กรดซาลิไซลิก และอัลคาลอยด์ (alkaloids) ดอกมะลิถูกใช้เพื่อเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกาย รวมทั้งช่วยลดไข้ โดยงานวิจัยในอินเดียชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ดอกมะลิมีสรรพคุณต้านอักเสบ และลดไข้ สามารถช่วยลดไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบได้กับพาราเซตามอล
  • ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น กลิ่นของดอกมะลิมีคุณสมบัติเป็นยาระงับประสาทตามธรรมชาติแบบเดียวกับแวเลียม  การดูดดมกลิ่นของมะลิสามารถใช้แทนยานอนหลับได้ ทำให้น้ำมันหอมระเหยจากมะลิเป็นที่นิยมนำมาใช้ในการบำบัดด้วยกลิ่น (Aromatherapy)
  • อุดมด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ ดอกมะลิมีโพลีฟีนอลส์หลายชนิด ที่อาจช่วยต่อสู้อนุมูลอิสระ และเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน เมื่อเอามาผสมกับชาเขียวจะให้ EGCg ซึ่งเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์เข้มข้นเพิ่มขึ้นด้วย
  • ต้านอาการซึมเศร้า การศึกษาชิ้นหนึ่งในเยอรมนีแสดงให้เห็นว่า ดอกมะลิอาจมีประโยชน์ในการต้านอาการซึมเศร้า การสูดกลิ่นของดอกมะลิ ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น  
  • ช่วยลดน้ำหนัก ดอกมะลิอย่างเดียวหรือผสมกับชา อาจช่วยเสริมการลดน้ำหนัก โดยการศึกษาวิจัยในอินโดนีเซียได้แสดงให้เห็นว่า ชาดอกมะลิอาจช่วยป้องกันน้ำหนักขึ้น และการสะสมของไขมัน และอาจกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ ดอกมะลิที่ผสมกับอูหลง ผู่เอ๋อ หรือชาเขียว อาจมีผลกระทบและประโยชน์มากกว่าในเรื่องน้ำหนัก อาจเพราะชาช่วยเพิ่มการเผาผลาญ เร่งการเผาผลาญไขมัน และลดระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลชนิดเลว
  • ช่วยรักษาอาการปวดท้อง ในการแพทย์แผนจีน ดอกมะลิใช้รักษาอาการที่เกี่ยวกับม้าม กระเพาะอาหาร และตับ การศึกษาในสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่า มันอาจมีผลในการป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และเนื่องจากดอกมะลิมีผลในการระงับอาการปวดได้ เมื่อเอามาผสมกับชาเขียว ก็อาจช่วยระงับอาการปวดท้องได้
Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *