การสร้างความแตกต่างให้ทรงผม ไม่จำเป็นต้องพึ่งกรรไกร การเปลี่ยนสี หรือเครื่องประดับผมเสมอไป แค่เปลี่ยนรายละเอียดเล็กๆ อย่างรอยแสกผม ก็เพียงพอแล้ว
รอยแสกผมแบบ Middle Part
เป็นซิกเนเจอร์ของสาวงามยุค 70 กับทรงผมยาวตรง ที่แสกกลางเป๊ะ เป็นทรงที่เหมาะกับทุกโอกาสและทุกรูปหน้าด้วย เพราะมันเป็นทรงผมที่ดูคลาสิก เรียบง่าย แต่ดูสง่างามไปได้ในขณะเดียวกัน
ทำอย่างไร เพื่อให้ได้รอยแสกที่ตรงแหนว หวีหางยาวคือตัวช่วยของคุณ แต่ไม่ใช่ตรงตัวหวีนะ ด้ามจับเรียวยาวเหมือนหางหนูนั่นต่างหากที่สำคัญกว่า หวีผมเสยขึ้นไปด้านบน แล้วใช้ส่วนหางของหวี แสกผมแทนซี่หวี ที่อาจทำให้ผมยุ่งมากกว่า
รอยแสกแบบ Diagonal Part
เป็นรอยแสกที่เพิ่มความน่าสนใจให้ผมเกล้า ไม่ว่าจะเป็นผมหางม้า หรือผมมวยก็ตาม และมันยังช่วยให้ใบหน้ากว้างๆ ดูเรียวขึ้นด้วย
ทำอย่างไร แบ่งผมตรงบริเวณหางคิ้ว ด้านใดด้านหนึ่ง แล้วหวีออกไปด้านตรงข้าม ขึ้นไปหากระหม่อม แล้วรวบผมที่เหลือเป็นหางม้า หรือเกล้าเป็นผมมวย
รอยแสกแบบ Deep Side Part
เป็นญาติกับผมแสกข้าง แต่ดูเก๋กว่า แถมการแสกผมด้านข้างให้ลงมาลึกกว่าที่เคย ยังเป็นการเพิ่มวอลุ่มให้ผมทางด้านหน้าอีกด้วย เนื่องจากจะมีผมอยู่ทางด้านหนึ่งมากกว่า ถ้าหน้าคุณค่อนข้างกลม การปาดผมจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวลงด้วย
ทำอย่างไร ใช้หวีหางแสกผม ให้ต่ำกว่ารอยแสกปกติกของคุณ ประมาณแนวหางคิ้ว หรือเหนือขึ้นไปเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องให้รอยแสกเนี้ยบนักก็ได้
รอยแสกแบบ Zigzag Part
รอยแสกที่หยักไปมาดูแปลกตา และสนุกสนาน และเหมาะกับรูปหน้าทุกรูปทรง แถมยังเป็นวิธีการพรางโคนผมที่เพิ่งงอกขึ้นมาใหม่ได้ดี ทำให้ยังไม่ต้องไปเติมสีผมเร็วนักก็ได้
ทำอย่างไร แสกผมตามปกติแล้วใช้ปลายนิ้วจับเส้นผมส่วนเล็กๆ ปัดสลับกันไปมาคนละข้าง คุณจะได้รอยซิกแซกตามต้องการ
รอยแสกแบบ Side Part
ผมของเราแทบทุกคนมักจะปัดไปด้านใดด้านหนึ่งอยู่แล้วตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้นผมแสกข้างจึงเป็นผมที่ทำให้ทุกรูปหน้าดูดี นอกจากนี้การแสกผมสลับข้างกันไปมา ก็เป็นวิธีการที่ช่วยพรางผมที่บางลงทางด้านหน้าได้ดี
ทำอย่างไร เพื่อให้ได้อารมณ์ที่ดูสบายๆ ใช้นิ้วแสกผมแทนหวี เพื่อไม่ให้ดูเนี้ยบจนเกินไป
Average Rating