
เพื่อนร่วมงานเป็นคนที่เราต้องเจออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง แต่ละคนก็แต่ละแบบ แล้วเราจะรับมือกับเพื่อนร่วมงานหลากสไตล์อย่างไรดี
นอกเหนือจากเรื่องงานแล้ว เพื่อนร่วมงานก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่จะทำให้ชีวิตการทำงานของคุณมีความสุข หรือมีความทุกข์ แต่ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะรับมือกับเพื่อนร่วมงานหลากสไตล์ที่แตกต่างกันไป ชีวิตการทำงานของคุณจะก็สุขสงบมากยิ่งขึ้น
เพื่อนร่วมงานหลากสไตล์มีอะไรบ้าง
1 สำนักข่าวประจำออฟฟิศ

เป็นพวกชอบอัพเดทเรื่องของทุกคนและทุกอย่าง ตั้งแต่ข่าวดารา อาชญากรรม แม่บ้านคนไหนถูกหวย พนักงานคนไหนลาออก คนนี้รู้หมด จนบางครั้งเรายังต้องสงสัยว่ารู้ได้ยังไงอะ?
ปัญหาในการร่วมงาน : บางครั้งเราอาจมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานคนอื่น และมันอาจจัดการได้ง่ายๆ ในวงแคบ แต่กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะการกระจายข่าวที่อาจผิดเพี้ยนไป หรือกระทั่งความผิดพลาดในการทำงาน ที่อาจกลายเป็นท็อปปิคฮอตในชั่วข้ามคืน
วิธีวางตัว : หากเราเป็นผู้ฟังก็ขอให้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งไว้ก่อน อย่าไปใส่ไฟหรือให้ความเห็นเพิ่ม เพราะมีความเป็นไปได้สูง ที่คำพูดเราจะย้อนกลับไปถึงหูผู้ที่ถูกกล่าวถึงอยู่ดี
2 เทพีมิตรภาพ

เป็นที่รักประจำออฟฟิศ เข้ากันได้กับทุกคน ทำงานเก่ง แต่ก็เป็นคนถ่อมตัว แถมยังมีอารมณ์ขันที่ใครๆ ก็ชอบ ถึงจะมีคนหมั่นไส้อยู่บ้างแต่ก็ไม่ใครกล้าแสดงออกมาตรงๆ หรอก
ปัญหาในการร่วมงาน : การเป็นที่รักทำให้เธอมีเครดิตดีกว่าคุณ ยิ่งหากทำงานมานานกว่ายิ่งมีความน่าเชื่อถือเข้าไปอีก แม้เธอจะไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่กลับเป็นคุณเองอาจนึกอยากล้มเธอ รู้ไว้นะว่าคุณกำลังเอาตัวเข้าไปเสี่ยงไม่เข้าเรื่อง
วิธีวางตัว : การที่เธอเป็นที่รักอาจเป็นต้นแบบที่ดี ที่คุณจะได้มองเห็นว่าองค์กรนี้มีวัฒนธรรมอย่างไร แทนที่จะนึกอิจฉา หรือคิดไปว่าเขาทำอะไรก็ถูกไปหมด ควรนำเอาการวางตัวที่ดีของเขามาปรับให้เข้ากับความเป็นธรรมชาติของเราเอง
3 วัยทองจอมเฮี้ยน

พนักงานรุ่นใหญ่ที่อยู่ในช่วงวัย 40+ ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะปากร้าย โมโหง่าย หรือขี้เหวี่ยง คนที่จัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ดีก็มีอยู่ แต่ที่รับมือยากคือ คนที่อารมณ์ไม่คงที่ แล้วยังวางอำนาจสุดๆ
ปัญหาในการร่วมงาน : ด้วยความเอาแต่ใจและชอบเอาเปรียบ ทำให้ต้องปวดหัวทุกครั้งที่ร่วมงาน บางครั้งอาจโดนตำหนิด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ทั้งที่เป็นความผิดพลาดเล็กน้อย
วิธีวางตัว : ต้องควบคุมอารมณ์เราเองก่อน ใช้คาถานิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว การต่อปากต่อคำอาจทำให้สะใจเพียงชั่วครู่ แต่ในระยะยาวคงไม่ดีแน่ ควรชี้แจงอย่างใจเย็นถึงเหตุผลที่คิดต่าง หรือเสนอความคิดที่จะทำให้มาเจอกันคนละครึ่งทางจะดีกว่า
4 มนุษย์ Gen Y

มนุษย์เงินเดือนวัยยี่สิบที่มีความเป็นตัวเองแบบสุดๆ รักอิสระ และจะไม่ทนต่อความไม่เหตุผลทั้งปวง มองคนยุคก่อนหน้าว่าหัวโบราณ แต่ก็ไฟแรง เป็นตัวขับเคลื่อนองค์กรด้วยความคิดอันสดใหม่
ปัญหาในการร่วมงาน : คุณจะได้รับความเห็นจากพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็จะมีความแดกดันหรืออวดรู้อยู่ในน้ำเสียงด้วยหน่อยๆ เสมอ ความคิดของเขาอาจจะทันโลกแต่ยังขาดความกลมกล่อมทางประสบการณ์
วิธีวางตัว : อย่างแรกคือรับฟังพวกเขาให้จบ หาเหตุผลหรือยกตัวอย่างที่จะมีน้ำหนักมากพอให้พวกเขารับฟัง และท้าทายพวกเขากลับถึงวิธีแก้ไขปัญหาในแบบของเขา พวกเขาจะชอบแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง เมื่อพวกเขาเห็นรูรั่วในความคิดของพวกเขา ก็ถึงจังหวะที่คุณจะถ่ายทอดประสบการณ์ลงไป และนี่จะเปลี่ยนพวกเขาให้นับถือคุณได้อีกด้วย
5 นักขโมยซีน

คุณจะไม่ค่อยเจอพวกเขาตอนที่เริ่มวางแผน และลงมือทำสักเท่าไหร่ แต่พอวันนำเสนองานเท่านั้นล่ะ พวกเขาสามารถพูดได้น้ำไหลไฟดับประหนึ่งคลอดโปรเจ็คท์นี้เองแต่แรก และทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขาคือเจ้าของไอเดียสุดบรรเจิดนี้
ปัญหาในการร่วมงาน : ไม่ว่าคุณทำงานหนักแค่ไหน แต่เสียงชื่นชมกลับอยู่ที่พวกเขา แม้คุณจะพยามยามทำ O.T. ตลอดปี แต่ก็ยังได้ไม่เท่าโบนัสของพวกเขาตอนปลายปี
วิธีวางตัว : รายงานความคืบหน้าของงานให้กับหัวหน้าเป็นระยะๆ ทุกคนควรได้รู้ว่าคุณทำอะไรบ้างเพื่อโปรเจ็คท์นี้ คอมพิวเตอร์ แฟลชไดร์ ตั้งรหัสและทำให้มันเข้าถึงยากเข้าไว้ อย่าเผลอตอบอะไรที่เกี่ยวกับงาน เพราะถ้าพวกเขาทำงานกับคุณตั้งแต่แรก พวกเขาควรจะรู้เรื่องนั้นดี
6 นักขายรายวัน

มนุษย์เงินเดือนที่ใช้เงินไม่เคยพอ จึงต้องมีอาชีพเสริมอย่างการขายผลิตภัณฑ์นานาชนิด พวกเขาขันแข็งในการขายมากกว่างานประจำ และคุณไม่เคยต้องทักเขาก่อน เพราะพวกเขาหาโอกาสเข้าหาคุณทุกเมื่ออยู่แล้ว
ปัญหาในการร่วมงาน : หากคุณเป็นคนปฏิเสธคนไม่เป็น คุณอาจลำบากกว่าคนอื่นในการอยู่ร่วมกับพวกเขา คุณต้องสมัครสมาชิกโน่นนี่อยู่เรื่อยๆ หรือซื้อของมาเก็บไว้ในลิ้นชักจนใกล้จะล้นเต็มที
วิธีวางตัว : การจะหลบหน้าไปเลยก็ดูเป็นไปได้ยาก แต่มี 3 คำที่ขอแนะให้คุณพูดเวียนๆ ซ้ำๆ จนกว่าพวกเขาจะยอมไปก็คือ ขอบคุณนะคะ/ ไม่เป็นไรค่ะ/ ไม่สะดวกจริงๆ ค่ะ
7 จอมกัด

พวกเขาสามารถหาจุดจับผิด แม้จะเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยมากในตัวคุณมาพูดถึง โดยมักจะพูดด้วยน้ำเสียงซอฟท์ๆ แต่ถ้อยคำบาดลึก ตามด้วยเสียงหัวเราะร่วน แบบไม่สนใจว่าจะมีใครขำตามหรือไม่
ปัญหาในการร่วมงาน : พวกเขาทำให้คุณหงุดหงิดจนไม่อยากคุยด้วยเลยล่ะ แต่ก็ไม่ได้ร้ายกาจจนถึงขั้นทำให้คุณปรี้ดแตก พวกเขายังเป็นเพื่อนร่วมงานที่ทำงานเก่ง พึ่งพาได้ แต่ก็นั่นล่ะบางทีคุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่ก็ต้องโดนจิกอยู่ดี
วิธีวางตัว : มองให้เป็นเรื่องสนุกเข้าไว้ เช่น ลองนึกล่วงหน้าว่าเขาจะจิกอะไรคุณ หรือถ้าคุณมีฝีมือพอ ก็จิกเขากลับ คนพวกนี้เขาไม่ค่อยถือหรอก เผลอๆ โดนกลับบ่อยๆ พวกเขาอาจจะหันไปหาเป้าหมายอื่นที่จะไม่ตอบโต้พวกเขาก็ได้
8 เพื่อนช่างใช้

พวกเขาเป็นพนักงานระดับเดียวกับคุณที่มีวลีทองว่า “ช่วย…หน่อยสิ” และส่วนมากจะไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน เช่น ฝากหยิบของในตู้เย็น วานให้ลงแอพในมือถือ แกล้งเป็นน้องที่ป่วยเวลาที่แฟนโทรตามฯลฯ
ปัญหาในการร่วมงาน : อะไรที่พอช่วยได้ก็ช่วยกันไม่ได้เสียหายก็จริง แต่บางครั้งงานคุณเองก็ยุ่งจนไม่ว่างถ่ายรูป 18 แอ็คให้ ต่อให้บอกว่าคุณงานยุ่งแค่ไหน คุณก็จะเจอกับเสียงออดอ้อนว่าแป๊บเดียวเอง
วิธีวางตัว : พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง ถ้าคุณไม่ว่างจะช่วย ก็นั่งและทำงานของคุณต่อไป ถึงพวกเขาจะไปโวยลับหลังว่าคุณไม่มีน้ำใจ แต่นิสัยของพวกเขาก็เป็นที่รู้กันดีอยู่ทั้งบริษัทอยู่แล้ว
9 เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดี เป็นห่วงเป็นใยคุณเรื่อง คุณสามารถเล่าเรื่องอะไรให้เขาฟังก็ได้ นอกเวลางานคุณกับเขาไปแฮงเอ้าท์กันได้เหมือนเพื่อนสมัยเรียนไม่มีผิด
ปัญหาในการร่วมงาน : เพื่อนสนิทอาจกลับกลายเป็นจุดอ่อนได้ง่ายๆ ในเรื่องงาน มีหลายกรณีที่พวกเขาไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณโดยตรง แต่บุคคลที่สามอาจใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือในการกดดันคุณ หรือกระทั่งขโมยความลับก็มีมาแล้ว
วิธีวางตัว : ไม่ผิดที่คุณจะได้เพื่อนแท้จากการทำงาน แต่คุณต้องระวังให้มากในเวลางาน อะไรที่เป็นความลับบริษัท ก็ยั้งใจไว้ไม่บอกไปจะดีกว่า หรือการกระทำที่สุ่มเสี่ยงอย่างการปกปิดความผิดของพวกเขา อย่าได้เริ่มตั้งแต่แรกเชียว เพื่อนกันช่วยเตือนกันจะดีกว่านะ
Average Rating