25 ปัจจัยการใช้ชีวิต ที่ส่งผลต่อความงาม…อย่างที่คุณนึกไม่ถึง

ปัจจัยการใช้ชีวิตหลายอย่างในชีวิตประจำวัน ดูเผินๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับความงาม แต่ที่จริงแล้วเกี่ยวกันอย่างมากอย่างที่คุณนึกไม่ถึงเลยล่ะ

ปัจจัยการใช้ชีวิต ที่ส่งผลต่อความงามได้นั้น อาจเป็นสิ่งที่คุณคาดไม่ถึง แต่ก็อย่างที่คุณอาจเคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง นั่นก็คือ ผิวหนังของคนเราจะทำปฎิกิริยากับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นความเครียด แสงสว่าง อาหาร ฯลฯ ซึ่งปฎิกิริยาพวกนั้นจะมีทั้งบวกและลบ 

ฉะนั้น ถ้าคุณอยากดูแลให้ผิวมีสุขภาพดีล่ะก็ ตรวจดูรายการของปัจจัยการใช้ชีวิตต่างๆ พวกนี้เอาไว้หน่อยก็ดีนะ จะได้รู้ทางหนีทีไล่ เมื่อเจออะไรที่เป็นภัยต่อผิว

1 โทรศัพท์มือถือ

การคุยโทรศัพท์โดยไม่ใช้ชุดหูฟังไร้สายนั้น อาจทำให้มีปริมาณความร้อนและน้ำมันสะสมอยู่บนใบหน้าเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งต่างๆ พวกนี้จะนำไปสู่ปัญหารูขุมขนอุดตัน และปัญหาริ้วรอยก่อนวัยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครยังใช้มือถือแบบที่มีจอเล็กๆอยู่ และใช้เป็นเวลานานๆ ล่ะก็ ก็อาจนำไปสู่การใช้กล้ามเนื้อบนบนใบหน้ามากเกินไป จนนำมาซึ่งปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาได้

2 เล็บมือ

คุณควรทำความสะอาดเล็บเป็นประจำนะคะ เพราะเล็บมือที่สกปรกนั้นจะทำให้สิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรีย แพร่กระจายไปบนผิวได้ง่ายดาย ทุกครั้งที่คุณเกาในส่วนที่คัน สิ่งสกปรกและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ก็จะถูกดันลึกเข้าไปในผิวมากขึ้นเรื่อยๆ

3  เครื่องนอน

ไม่ว่าจะเป็นปลอกหมอน ผ้าปูเตียง หรือผ้าห่ม ล้วนมีคราบสกปรกจากตัวคุณเองสะสมอยู่ทั้งนั้น ฉะนั้น จึงควรนำไปซักให้สะอาด อย่างน้อยก็สัปดาห์ละครั้ง โดยเฉพาะกับปลอกหมอน ซึ่งเป็นอะไรที่ส่งผลกระทบต่อผิวหน้าของคุณเป็นอย่างมาก

4 การออกกำลังกาย

ผิวหนังของคุณจะทำปฎิกิริยาตอบโต้กับการออกกำลังกายได้มากพอๆ กับกล้ามเนื้อเลยนะคะ เนื่องจากการออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นให้สูดออกซิเจนเข้าร่างกาย ซึ่งจะช่วยนำพาสารบำรุงต่างๆ เข้าสู่ผิวอีกต่อหนึ่ง และนั่นจะทำให้ร่างผลิตคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ก็หมายความว่าผิวหนังจะเรียบเนียนและแข็งแรงขึ้นด้วย นอกจากนี้ การที่คุณเหงื่อออกก็หมายความว่า ร่างกายได้ขจัดสารพิษที่สะสมอยู่ภายในร่างกายออกไปด้วย

5  การนั่ง

การนั่งเป็นระยะเวลานานๆ ทำให้เส้นเอ็นต่างๆ หดสั้นลง และทำให้กระดูกสันหลังและเส้นเลือดในช่วงกลางลำตาและบริเวณขาอัดตัวกันแน่น ทำให้ระบบหมุนเวียนในร่างกายทำงานได้ไม่สะดวก ส่งผลให้ผิวไม่สามารถรับสารบำรุงต่างๆอย่างที่ควรจะเป็นได้

6  การยืดตัว

การยืดตัวเป็นอะไรที่สวนทางกับการนั่ง เพราะจะทำให้เส้นเอ็นต่างๆ กล้ามเนื้อ ผิวหนัง และกระดูกสันหลังเกิดการยืดตัว ส่งผลให้สารบำรุงต่างๆ สามารถแทรกซึมเข้าร่างกายได้อย่างสะดวก

7 อุณหภูมิของน้ำที่ใช้อาบ

น้ำร้อนอาจช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย แต่จริงๆ มันคือตัวการทำให้ผิวแห้งเสีย ส่วนน้ำเย็นเป็นอะไรที่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่า แถมยังช่วยกระตุ้นปลายประสาทที่อยู่ใต้ผิว และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบหมุนเวียนในร่างกายด้วย แต่อย่าลืมทามอยสเจอไรเซอร์หลังอาบน้ำเสร็จทันทีนะ เพราะเป็นช่วงที่ผิวยังชื้นๆ จึงช่วยล็อคความชุ่มชื้นเอาไว้ในผิวได้ดีกว่า

8 เสื้อผ้า

เสื้อผ้าที่คุณใช้สวมใส่นั้น เป็นอะไรที่อยู่ใกล้ชิดติดกับผิวหนังมากๆ แถมยังทำให้ระดับความร้อนและความชุ่มชื้นใกล้ๆ ผิวเพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นเยี่ยมของเชื้อแบคทีเรีย ถึงแม้ว่าการตรวจดมจะไม่ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ใดๆ แต่การสวมเสื้อผ้าซ้ำโดยไม่ได้ซักก่อนนั้น จะนำไปสู่การสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เหงื่อ เชื้อแบคทีเรีย และสิ่งน่าขยะแขยงต่างๆ นานาที่คุณไม่อยากจะเข้าใกล้ด้วย

9 ผ้าเช็ดตัว

คุณควรใช้ผ้าเช็ดตัวที่สะอาดเสมอ ถ้าแยกผ้าเช็ดตัวสำหรับผิวหน้าและผิวกายได้ด้วยก็จะยิ่งดี เพราะจะช่วยไม่เชื้อแบคทีเรียเกิดการแพระกระจาย นอกจากนี้น้ำมักจะเคลื่อนตัวลงสู่ที่ต่ำเสมอ ฉะนั้น จึงควรเช็ดตัวจากข้างบนลงไป เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหยดลงในส่วนที่เช็ดให้แห้งแล้ว

10 คอมพิวเตอร์

จอคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะปล่อยแสงสีฟ้าออกมาทำให้สมองของคุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนั่นจะนำไปสู่ปัญหานอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิทได้ นอกจากนี้การนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ยังทำให้คุณไม่รู้สึกดื่มด่ำความความงามตามธรรมชาติด้วย ฉะนั้น ทาครีมกันแดดแล้วออกไปชื่นชมธรรมชาติซะ!

11 การขับรถ

การขับรถมักจะนำมาซึ่งความเครียด โดยเฉพาะอย่างกับสภาพการจราจรที่ติดขัด และผู้ขับรถที่ไม่มีระเบียบวินัยอย่างในบ้านเรา ซึ่งความเครียดนั้นก็จะทำให้ความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สารบำรุงต่างๆ เข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวได้อย่างจำกัด นอกจากนี้การขับรถยังทำให้ผิวโดนรังสียูวีในแสงแดดทำร้ายได้มากกว่าที่คิด เพราะแสงแดดจะลอดผ่านกระจกเข้ามาโดนมือ แขน และใบหน้าได้ และจะยิ่งอันตรายมากถ้าคุณต้องขับรถในระยะทางไกลๆ โดยไม่ทาครีมกันแดด

12 การดูทีวี

จอทีวีก็เหมือนจอคอมพิวเตอร์นั่นแหละ ที่จะปล่อยแสงสีฟ้าออกมารบกวนรูปแบบการนอนหลับพักผ่อนของคุณ และทำให้คุณกลายเป็นคนเฉื่อยชา ชนิดที่ชอบนั่งหรือนอนนิ่งๆ อยู่บนโซฟา ฉะนั้น ลุกออกจากโซฟาแล้วออกไปหากิจกรรมนอกบ้านทำบ้างซะ!

13 เสียงดนตรี

เพลงดีๆ มักจะนำพาจิตใจของคุณเข้าไปอยู่ในที่ในทางได้ มีการศึกษาวิจัยกันมาแล้วว่า เสียงดนตรีช่วยลดความเครียด และช่วยเติมพลังในระหว่างออกกำลังกายได้ แถมยังช่วยทำให้จิตใจรู้สึกสงบเยือกเย็นขึ้นด้วย ว่ากันว่าเสียงดนตรียังช่วยให้สามารถลดการใช้ยาระงับประสาทในระหว่างการผ่าตัดด้วย ซึ่งการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีความเครียดน้อยลงนั้น เป็นอะไรที่รู้ๆกันอยู่ว่าช่วยทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใสได้

14 อากาศบริสุทธิ์

เหตุผลหลักที่ทำให้เราล้มป่วยในช่วงอากาศหนาวกันบ่อยนั้น ก็เนื่องมากจากเราขังตัวเองอยู่แต่ในบ้านที่มีระบบหมุนเวียนของอากาศแบบเดิมๆ การออกไปสูดอากาศนอกบ้าน หรือเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์เข้ามา จะทำให้ร่างกายได้รับอากาศที่มีคุณภาพ ส่งผลให้ผิวหนังสามารถดูดซับสารอาหารที่สดใหม่ได้ นอกจากนี้สายลมอ่อนๆ ยังช่วยทำให้ผิวหนังรู้สึกเย็นขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบหมุนเวียนในร่างกาย

15 การแผดเสียง

การแสดงอารมณ์ทางด้านลบออกมาอาจจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ แต่การแผดเสียงหรือตะโกนด่าว่าใครไม่ใช่สิ่งจำเป็น เพราะการตะโกนด่าว่าใครอาจเป็นการทำร้ายความรู้สึกของคนๆ นั้น แถมยังทำให้คุณต้องสิ้นเปลืองพลังงานอันจะนำมาซึ่งความเครียด และบั่นทอนความสุขในชีวิตด้วย ซึ่งผิวของคุณจะตอบโต้กับทุกอารมณ์ความรู้สึกและพลังงานพวกนั้นเสมอ

16 การอ่านหนังสือ

การใช้เวลาอ่านหนังสือเป็นวิธีลดความเครียดที่เยี่ยมมาก แถมยังช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นก็หาหนังสือดีๆ พกติดตัวเอาไว้ซะ หรือจะให้ดียิ่งไปกว่านั้น ก็สมัครเป็นสมาชิกเพื่อเสาะหา E-Book ดีๆ ตามเว็บไซด์ต่างๆ คุณจะได้สามารถแหล่งข้อมูลในการอ่านได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนที่อยู่ในรถไฟฟ้า หรือในระหว่างที่นั่งรอใครอยู่ การใช้เวลาอ่านหนังสือเป็นอะไรที่ดีต่อสมอง แถมยังช่วยลดความเครียดที่เกี่ยวเนื่องกับการรอคอยด้วย

17 รองเท้า

รองเท้าสวยๆ อาจช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับเท้า แต่มันอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นเยี่ยมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา นอกจากนี้รองเท้าก็ควรมีความพอดี และช่วยรองรับเท้าได้อย่างเหมาะสม การที่คุณต้องเกร็งเท้าอยู่ตลอดเวลานั้น ก็หมายความว่ารองเท้าคู่นั้นคับเกินไป หรือสร้างความตึงเครียดให้กับร่างกายมากเกินไป ซึ่งข้อเสียพวกนี้จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก การที่ต้องเดินไปเดินมาทั้งวัน เป็นการสร้างความตึงเครียดให้กับเท้า ส่งผลให้ผิวบริเวณเท้าเกิดอาการแห้งแตกได้ ฉะนั้น อย่าลืมดูแลเท้าให้ดีๆ ด้วยล่ะ

18 การควบคุมอุณหภูมิ

เครื่องปรับอากาศเป็นอะไรที่ทำให้อากาศภายในห้องนั้นมีความแห้ง ซึ่งจะส่งผลให้ผิวของคุณมีอาการแห้งตามไปด้วย ฉะนั้น อย่าใช้เครื่องปรับอากาศอย่างพร่ำเพรื่อ ถ้าอากาศในห้องของคุณมีความแห้งมาก ก็ควรหาอะไรมช่วยเติมความชุ่มชื้นซะ การวางกระถางต้นเฟิร์นหรือแม้แต่กะละมังใสน้ำไว้ในห้อง ก็สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นในปริมาณที่เพียงพอได้

19 สัตว์เลี้ยง

สัตว์เลี้ยงอาจจะมาพร้อมกับความสกปรก และอาจจะมีอะไรที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองติดมากับขนด้วย ซึ่งนั่นอาจจะก่อให้เกิดปัญหาผิวกับคุณได้ ฉะนั้น จึงควรอาบน้ำให้กับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ เพื่อให้ทั้งคุณและสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพผิวที่ดี นอกจากนี้การศึกษาวิจัยหลายต่อหลายสำนักก็ยังระบุตรงกันว่า การมีสัตว์เลี้ยงและใช้เวลากับพวกมันนั้น ช่วยทำให้คุณมีสุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี

20 กาแฟ

คาเฟอีนคือตัวการร้ายที่ทำให้ผิวของคุณแห้ง และทำให้เห็นริ้วรอยได้ชัดเจนขึ้น เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวซะ ด้วยการดื่มน้ำเยอะๆ การฝานผลไม้อย่างส้มหรือมะนาวใส่ลงไปในน้ำด้วย ก็จะช่วยเติมรสชาติให้น้ำที่สามารถช่วยให้คุณรู้สึกอยากดื่มบ่อยๆได้

21 เครื่องสำอางหลากชนิด

ถ้าไม่อยากให้ผิวของคุณต้องเจอกับฝันร้าย ก็ควรทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ (อย่างเครื่องสำอาง โลชั่น และเคลนเซอร์) กับผิวบนแขนในบริเวณเล็กๆ ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้แบบไม่คาดฝันบนผิวหน้า

22 ผลิตภัณฑ์เส้นผม

ผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมก็ควรอยู่บนเส้นผม ไม่ควรเปรอะเปื้อนอยู่บนผิวหน้า ฉะนั้น ครั้งต่อไปที่คุณจะฉีดสเปรย์ ก็ควรหาผ้าเช็ดตัวสะอาดๆ มาคลุมผิวหน้าเอาไว้ก่อน นอกจากนี้ก็ควรใช้ที่คาดผมแบบซับเหงื่อได้เวลาไปเข้ายิมด้วย เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์แต่งผมไหลเยิ้มมาเปื้อนหน้าเวลาที่มีเหงื่อออก

23 แว่นตากันแดด

ถึงแม้แว่นกันแดดจะช่วยปกป้องผิวรอบดวงตาจากรังสียูวีในแสงแดดได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าปล่อยปละละเลยไม่ยอมทำความสะอาดแว่นกันแดดเป็นประจำล่ะก็ เชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่บนแว่นอาจลุกลามเข้าไปอยู่ในรูขุมขนแถวๆ สันจมูกของคุณได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาสิวและผิวอักเสบได้ ฉะนั้น ล้างแว่นตาหรือใช้แผ่นทำความสะอาดเช็ดแว่นซะ

24 ถุงพลาสติกจากร้านซักแห้ง

เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองบนผิวหนัง คุณก็ควรถอดถุงพลาสติกที่คลุมเสื้อผ้าซักแห้งออกทันทีที่กลับถึงบ้าน เพื่อให้เสื้อผ้ามีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพราะยิ่งถุงพลาสติกคลุมเสื้อผ้าอยู่นานเท่าไหร่ เสื้อผ้าก็จะยิ่งดูดซับสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวมามากขึ้นเท่านั้น

25 ไอร้อนในซาวน่า

คุณควรใช้ห้องอบซาวน่าในยิมหรือในสปาให้น้อยที่สุด เพราะถ้าคุณอยู่ในนั้นเป็นเวลานานๆ ความร้อนก็จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิว

• Facebook
• Twitter
• Line