คุณรู้จักกับประเภทผิวของตัวเองดีพอหรือยัง?

Read Time:4 Minute, 27 Second

ประเภทผิวของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกที่คุณต้องรู้จัก เพราะนี่คือพื้นฐานสำคัญในการดูแลผิวและการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

คุณรู้จักประเภทผิวของคุณดีพอหรือยัง? อย่าเพิ่งคิดว่านี่เป็นคำถามที่ไร้สาระ เพราะสิ่งที่เราพบก็คือ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักเข้าใจประเภทของผิวตัวเองแบบผิดๆ ก็เลยมักเลือกใช้สกินแคร์ผิดประเภท เพราะพวกเธอมักจะใส่ใจเป็นพิเศษเฉพาะบางจุด และบางอย่างที่เกิดกับผิวหน้าตัวเอง จากนั้น ก็เลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองเฉพาะประเด็นนั้น แทนที่จะสนใจที่ความต้องการของผิวทั้งหมด

ความเข้าใจผิดในประเภทของผิวตัวเอง

เมื่อสาววัย 40 เริ่มมีสิวเนื่องจากความแปรปรวนของฮอร์โมนเป็นครั้งคราว และเพราะสิวอุดตันนั้นเป็นเรื่องเจ็บปวด และอาจอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ พวกเธอก็เลยเริ่มคิดว่าผิวของเธอนั้นเป็นผิวที่ “มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย” และหันมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับ “ผิวมีปัญหา” โดยละเลยความจริงที่ว่า ผิวของเธอต้องการผลิตภัณฑ์ที่ต่อสู้กับความร่วงโรยของวัยด้วย

แถมผลิตภัณฑ์แรงๆ สำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย ก็มักทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง ผิวของเธอจึงกลับยิ่งมีปัญหามากขึ้นไปอีก ทั้งๆ ที่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเธอจริงๆ ก็คือ การใช้ทรีทเมนท์เฉพาะจุดที่เป็นสิว แล้วใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการสำหรับผิวที่เริ่มร่วงโรยจะดีกว่า

เราจะกำหนดประเภทของผิวที่แท้จริงได้อย่างไร

มันค่อนข้างยากในการกำหนดประเภทของผิวที่แท้จริงของเรา เนื่องจากบ่อยครั้งที่ผลิตภัณฑ์ซึ่งเราใช้ อาจทำให้ผิวของคุณมีการแสดงออกแตกต่างออกไปจากที่มันควรจะเป็นก็ได้

เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่เราควรทำ เพื่อที่จะกำหนดประเภทของผิวตัวเองได้อย่างแท้จริงก็คือ การประเมินดูว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่ ทำให้เกิดอะไรขึ้นกับผิวของเรา และเมื่อคุณกำจัดมันออกไปจนเหลือแต่ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวคุณสามารถแสดงออกได้อย่างปกติ—ตามที่มันควรจะเป็นเมื่อไหร่ คุณก็จะสามารถเข้าใจและเห็นลักษณะที่แท้จริงของผิวคุณได้อย่างถูกต้องเมื่อนั้น

ดูจากการตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์

สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยคุณกำหนดประเภทของผิวตัวเองได้ก็คือ การดูการตอบสนองของผิวต่อผลิตภัณฑ์ความงามที่คุณใช้ ถ้าผลิตภัณฑ์ทำให้ผิวคุณ…

รู้สึกแสบหรือคัน มันก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวของคุณ และอาจทำให้คุณคิดว่าผิวของคุณเป็นประเภทบอบบางหรือแพ้ง่าย ทั้งที่บางทีอาจเพราะผลิตภัณฑ์นั้นระคายเคือง ข้อยกเว้นก็คือ การใช้ซีรั่มที่เป็นกรด ที่ระบุไว้ชัดเจนว่าอาจทำให้เกิดความรู้สึกแสบหรือคันได้ SD Alcohol 40 เป็นส่วนผสมที่มักใช้ในโทนเนอร์หรือแสตริงจนท์ และน้ำหอม มักเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย

มีคราบมันตกค้าง มันไม่เหมาะกับผิวคุณ และตอนนี้คุณอาจคิดว่าผิวคุณเป็นประเภทผิวมันก็ได้ ทั้งที่จริงมอยสเจอไรเซอร์ของคุณอาจเข้มข้นเกินไปก็ได้ ผิวของคุณสามารถดูดซึมได้ประมาณหนึ่ง และส่วนที่เหลือก็จะอยู่บนผิวชั้นบน ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน

รู้สึกแห้งและตึง มันไม่เหมาะกับผิวคุณ และสามารถทำให้คุณคิดว่าผิวคุณแห้งหรือขาดน้ำ ทั้งที่ปัญหาอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ โฟมล้างหน้าที่มีซัลเฟตและโทนเนอร์แบบมีแอลกอฮอล์ สามารถขจัดน้ำมันออกจากผิวได้อย่างรุนแรง แต่คนส่วนมากชอบคิดว่าผิวที่ตึงๆ ฝืดๆ นั้นคือผิวที่สะอาด ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด

รู้สึกระคายเคือง ถ้าผลิตภัณฑ์ทำให้ผิวคุณระคายเคือง ก็เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะกับคุณแน่นอน แต่มันก็ไม่ได้หมายความเสมอไปว่าคุณมีผิวแพ้ง่าย มันอาจเพียงแค่คุณแพ้ส่วนผสมบางอย่างในผลิตภัณฑ์นั้นก็ได้

การแสดงออกของผิวประเภทต่างๆ

เมื่อคุณกำจัดผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวรู้สึกไม่ดีทั้งหลายออกไป และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวรู้สึกดี เมื่อนั้นคุณก็จะสามารถกำหนดสภาพผิวของคุณได้อย่างแท้จริง ด้วยการสังเกตการแสดงออกของผิวคุณ

ผิวมัน ถ้าคุณมีรูขุมขนใหญ่ทั่วใบหน้า และผิวเป็นมันวาวตลอดทั้งวัน และเก็นน้ำมันชัดเจน คุณก็มีผิวมัน และสามารถกำหนดว่าตัวเองเป็นผิวมันได้

ผิวผสม ถ้าผิวของคุณใหญ่ในบริเวณ T-Zone (หน้าผาก จมูก และคาง) และเห็นน้ำมันชัดเจนในบริเวณนั้นตลอดวัน แต่ผิวจะผลิตน้ำมันน้อยกว่าในบริเวณอื่น

ผิวปกติ ถ้าผิวของคุณผลิตน้ำมันเล็กน้อยในบริเวณ T-Zone และผิวไม่ได้แห้งลอก คุณก็มีผิวปกติ

ผิวแห้ง ผิวจะรู้สึกตึงตลอดเวลา ดูหยาบกร้าน มีรูขุมขนที่มองไค่อยเห็น อาจมีผิวลอกได้โดยเฉพาะในหน้าหนาว

ผิวแพ้ง่าย ผิวที่แดงหรือร้อนวูบวาบได้ง่ายจากการใช้ผลิตภัณฑ์ จากการสัมผัส จากน้ำร้อน แอลกอฮอล์ หรืออาหารเผ็ดร้อน ถือเป็นผิวแพ้ง่าย ซึ่งสิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงเป็นอันดับหนึ่งก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม มันเป็นส่วนผสมที่กระตุ้นอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ได้ง่ายที่สุด ก่อนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ใดก็ตาม อ่านฉลากดูว่ามีส่วนผสมที่อ่านได้ว่า “parfum” หรือ “fragrance” หรือเปล่า ส่วนใหญ่มักจะเรียงอยู่ในลำดับท้ายๆ ของส่วนผสม ถ้ามีก็อย่าซื้อมาใช้