9 เคล็ดลับการใช้มอยสเจอไรเซอร์ อะไรที่ควรทำและไม่ควรทำ

คู่มือใช้มอยสเจอไรเซอร์ของเรา จะช่วยคุณในการใช้มอยสเจอไรเซอร์ที่เหมาะสมกับผิวให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่สักแต่แค่ทาๆ ลงไป

เมื่อคุณกำหนดได้แล้วว่าผิวคุณเป็นประเภทใด คุณก็จะสามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการที่แท้จริงของผิวได้ แต่เพื่อให้สิ่งที่คุณทาลงบนผิวอย่างเช่นมอยสเจอไรเซอร์ ให้ประโยชน์สูงสุดแก่คุณได้จริงๆ เราได้รวบรวมเคล็ดลับต่างๆ มาสร้างเป็น คู่มือการใช้มอยสเจอไรเซอร์ ให้คุณแล้ว

1 เลือกมอยสเจอไรเซอร์สำหรับประเภทผิวของคุณ 

มอยสเจอไรเซอร์ไม่สามารถเหมาะกับผิวทุกประเภทได้ เนื่องจากผิวแต่ละประเภทต่างกัน และมีความต้องการต่างกัน การจะใช้มอยสเจอไรเซอร์อย่างเดียวสำหรับทุกคนจึงเป็นไปไม่ได้

2 ทามอยสเจอไรเซอร์กับครีมกันแดดเสมอในระหว่างวัน 

คุณอาจทาแยกกัน หรือเลือกมอยสเจอไรเซอร์ที่ผสมสารกันแดดก็ได้ เพื่อประหยัดเวลา แต่ในตอนกลางคืน อย่าใช้ชนิดที่มีสารกันแดด มันอาจไม่ได้เป็นอันตรายต่อผิวก็จริง แต่ตอนกลางคืนผิวไม่ได้ต้องการสารกันแดด เพราะฉะนั้นให้สิ่งที่ผิวต้องการไม่ดีกว่าหรือ กลางคืนเป็นเวลาที่ผิวจะได้ผ่อนคลายและซ่อมแซมตัวเอง เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับหน้าที่ของมันจะดีกว่า

3 ทามอยสเจอไรเซอร์ทั้งหน้าและคอ 

คอเป็นส่วนต่อจากหน้า และต้องการการเอาใจใส่เช่นกัน อย่าทำลายผิวหน้าสวยๆ ด้วยลำคอที่เหี่ยวแห้งและหยาบกระด้างเลย

4 ทามอยสเจอไรเซอร์ให้สม่ำเสมอ 

บางคนมักเกิดรูขุมขนอุดตันบริเวณตีนผมหรือใกล้หู นั่นอาจเป็นเพราะผลิตภัณฑ์แต่งทรงผม หรืออาจเป็นเพราะวิธีการที่เธอทาผลิตภัณฑ์ก็ได้ เวลาที่คนเราทาครีมจากกึ่งกลางหน้าออกไป การเกลี่ยครีมออกไปข้างนอก ทำให้มอยสเจอไรเซอร์ไปเซ็ทตัวอยู่ที่รอบใบหน้ามากกว่า และมันอาจทำให้รูขุมขนบริเวณนั้นอุดตันได้ อาจเกิดน้ำมันส่วนเกิน และทำให้เป็นสิว ฉะนั้นระวังวิธีการทามอยสเจอไรเซอร์ของคุณด้วย

5 เปลี่ยนมอยสเจอไรเซอร์เวลาอากาศเปลี่ยน 

ความสามารถของผิวในการรักษาความชุ่มชื่นเอาไว้ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศด้วย ฉะนั้น ถ้าจำเป็น ในช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้งกว่า ให้ใช้มอยสเจอไรเซอร์ที่เข้มข้นขึ้น และใช้มอยสเจอไรเซอร์เนื้อบางเบาในช่วงที่อากาศร้อนชื้นอย่างหน้าฝน

6 อย่าใช้มอยสเจอไรเซอร์มากเกินไป 

การทามอยสเจอไรเซอร์หลายๆ ชั้นเพื่อแก้ปัญหาผิวแห้ง ไม่เหมือนกับการเปลี่ยนไปใช้มอยสเจอไรเซอร์ที่เนื้อเข้มข้นขึ้น การทามอยสเจอไรเซอร์แบบหนาๆ มีแต่จะส่งผลให้รูขุมขนอุดตัน และเปลืองมอยสเจอไรเซอร์ เพราะผิวสามารถดูดซึมมอยสเจอไรเซอร์ได้ประมาณหนึ่งเท่านั้น

7 อย่าหวังพึ่งแต่การใช้มอยสเจอไรเซอร์ ในการให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว

ถ้าผิวคุณตึงและขาดน้ำ และรู้สึกว่าต้องการอีก อย่าประเมินคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื่นของโทนเนอร์แบบปราศจากแอลกอฮอล์และซีรั่มน้อยเกินไป คุณอาจต้องการใช้โทนเนอร์และซีรั่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของมอยสเจอไรเซอร์ที่คุณใช้เป็นประจำก็ได้ โดยให้แน่ใจว่าปล่อยให้ผิวชื้นนิดๆ หลังทาโทนเนอร์ ก่อนทามอยสเจอไรเซอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกักความชุ่มชื้น

8 อย่าปล่อยผิวทิ้งไว้นานเกิน 60 วินาทีหลังทำความสะอาด 

คุณควรทาโทนเนอร์แบบปราศจากแอลกอฮอล์และมอยสเจอไรเซอร์ทันที ถ้าคุณปล่อยผิวทิ้งไว้นานเกินหนึ่งนาที ผิวจะเริ่มแห้ง เนื่องจากอากาศแห้งๆ เข้ามาดึงน้ำออกไปจากผิว เริ่มต้นกิจวัตรการดูแลผิวของคุณอย่างรวดเร็ว ตอนที่ผิวยังคงความชุ่มชื่นอยู่ เพื่อทำให้ผิวได้รับการปกป้องอย่างทันที และหลีกเลี่ยงความรู้สึกแห้งตึง

9 อย่ากลัวน้ำมันในมอยสเจอไรเซอร์ 

ถ้าคุณเลือกมอยสเจอไรเซอร์ และเห็นคำว่า น้ำมัน (Oil) ในนั้น คุณก็อาจไม่กล้าซื้อถ้าคุณเป็คนผิวมัน เพราะคิดว่ามันจะอุดตันรูขุมขน สิ่งที่คุณควรเข้าใจก็คือ ที่จริงแล้วครีมหรือโลชั่นทุกชนิดต่างก็มีน้ำมันหรือสารหล่อลื่นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งทั้งนั้น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทาได้ง่ายขึ้น และไม่ใช่น้ำมันทุกชนิดที่อุดตันรูขุมขนหรือทำให้เกิดสิว หนึ่งในน้ำมันที่เราไม่แนะนำให้ใช้สำหรับผิวทุกประเภทก็คือ น้ำมันมิเนอรัล เรื่องจากมันอุดตันรูขุมขนได้ง่าย และปิดกั้นให้ผิวหายใจไม่ออก สารหล่อลื่นที่เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงด้วยก็คือ Isopropyl Myristate, Isopropyl Palmitate และ Petrolatum เนื่องจากมันก็ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนได้มาก แต่เพราะมันไม่มีคำว่า “น้ำมัน” อยู่ในนั้น คุณจึงไม่รู้ว่ามันเป็นส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขน น้ำมันที่ปลอดภัยต่อผิวคือน้ำมันจากพืชทั้งหลายอย่างเช่น น้ำมันโจโจบา น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล้ดทานตะวัน น้ำมันแมคคาเดเมีย เป็นต้น

ทดสอบก่อนใช้เสมอ

ถ้าคุณผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ ขอแนะนำให้คุณทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ทุกครั้ง โดยบริเวณที่เหมาะอย่างมากในการทดสอบผลิตภัณฑ์ก็คือ ด้านข้างของลำคอ เพราะบริเวณนี้จะเซนซิทีฟมากกว่าผิวบนใบหน้าเสียอีก จึงเป็นที่ซึ่งดีที่สุดในการทดสอบผลิตภัณฑ์ โดยทาผลิตภัณฑ์ปริมาณเล็กน้อยที่ด้านข้างของลำคอ และรอ 24 ชั่วโมง และถ้าไม่มีปฏิกิริยาในแง่ลบใดๆ ก็ถือว่าผ่าน

แต่ควรจำไว้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก กรดแลคติก กรดซาลิไซลิก หรือ AHA อื่นๆ ปกติมักจะทำให้เกิดรอยแดงที่คอ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของมัน เนื่องจากมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับการใช้ที่คอ

ถ้าคุณเกิดปฏิกิริยาต่อผลิตภัณฑ์ เกิดเป็นผื่นหรือรอยแดง ให้ทา Milk of Magnesia (ยาระบาย ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป) หรือโยเกิร์ตแบบไม่มีน้ำตาลแช่เย็นในบริเวณนั้น ทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออก แล้วทำซ้ำทุกสามชั่วโมง หรือจนกว่าจะหาย

• Facebook
• X
• Line