นิสัยรักการออกกำลังกาย
0 0
Read Time:6 Minute, 9 Second

นิสัยรักการออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องมีมาแต่กำเนิด แต่คุณก็สามารถ “เสพติด” การออกกำลังกาย เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและผอมเพรียวตลอดไปได้เช่นกัน

เราทุกคนต่างก็มีเพื่อน ที่แม้ว่าภารกิจจะวุ่นวาย แต่ก็ไม่เคยพลาดการไปยิม แต่ข่าวดีก็คือ เราทุกคนมีศักยภาพแบบนั้นได้ นี่คือวิธีที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว ในการสร้างนิสัยรักการออกกำลังกาย

1 ตื่นให้เช้าขึ้น

ตั้งแต่นาทีนี้ ไปตั้งนาฬิกาปลุก และเตรียมทุกสิ่งที่คุณต้องใช้สำหรับการออกกำลังกายในตอนเช้า (เปิดไฟทันทีเมื่อนาฬิกาดัง เพื่อคุณจะได้ตื่นเร็วขึ้น) การศึกษาจากมหาวิทยาลัยนอร์ธเท็กซัสค้นพบว่า การออกกำลังกายเวลาเดียวกันทุกวัน จะช่วยให้คุณปรับตัวได้เร็วขึ้น และงานวิจัยชิ้นอื่นได้แสดงให้เห็นว่า คนที่ออกกำลังกายในตอนเช้า จะคุ้นเคยกับการออกกำลังง่ายกว่าคนที่ออกกำลังช่วงอื่นของวัน และคุณจะไม่พลาดการออกกำลัง ถึงแม้จะมีสิ่งรบกวนที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นในช่วงอื่นของวันก็ตาม

2 รอหกสัปดาห์  

มีตำนานที่เล่าขานว่า ต้องใช้เวลา 21 วันเพื่อให้บางสิ่งกลายเป็นนิสัย แต่สำหรับการออกกำลังกาย บางทีอาจจะต้องนานถึงหกสัปดาห์ โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า นั่นคือเวลาที่คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง และคุณก็จะไม่อยากกลับไปเป็นคุณคนเก่าอีก และยังเป็นเวลาที่คุณจะเริ่มสังเกตเห็นความแตกต่างทางความรู้สึก เมื่อคุณเว้นการออกกำลังกายไปหนึ่งหรือสองวัน และคุณจะเริ่มพึงพอใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากการออกกำลังกาย

3 หารูปแบบของคุณเอง

หาสิ่งที่เหมาะกับคุณ และช่วยให้คุณปลดปล่อยจากงานหนักทุกวันของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการจ็อกกิ้ง หรือการพริ้วไหวของร่างกายตามครูผู้สอนในชั้นเรียนซุมบ้า คุณจะรู้ว่าคุณค้นพบมันแล้ว เมื่อคุณมองไปที่นาฬิกาแล้วพบว่า เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันสังเกต

4 จ้างเทรนเนอร์  

ไม่ว่าคุณจะเป็นหน้าใหม่โดยสิ้นเชิงในการออกกำลัง หรือคุณแค่ต้องการแรงจูงใจและคำแนะนำเล็กน้อย เทรนเนอร์ส่วนตัวสามารถช่วยคุณกำหนดเป้าหมาย และสร้างแผนเพื่อทำให้พวกมันเกิดขึ้นได้ ผู้ฝึกสอนที่ดียังจะทำให้คุณรับผิดชอบมากขึ้น และจะจูงใจให้คุณฝึกหนักขึ้นด้วย

5 หาเพื่อน  

การออกกำลังกายจะสนุกมากขึ้นกับเพื่อน และยังยากมากขึ้นมากที่จะล้มเลิก เมื่อคุณมีคนอื่นติดพันอยู่กับคุณด้วย ถ้าอยากท้าทายตัวเองมากขึ้นอีกหน่อย ลองเริ่มแข่งขันการออกกำลัง หรือลดน้ำหนักกับเพื่อนๆ ดูสิ

6 สร้างความสะดวก 

ลองดูว่าเวลาไหน ที่ไหน และอย่างไรคือการออกกำลังที่เหมาะ (และง่าย) ที่สุดสำหรับชีวิตคุณ สำหรับบางคนยิมใกล้ๆ ที่ทำงาน จะช่วยบังคับให้ออกกำลังกาย ก่อนหรือระหว่างพักเที่ยง สำหรับคนอื่นๆ การออกกำลังกายที่บ้าน หรือที่ยิมใกล้ๆ บ้านจะสะดวกกว่า

7 หาครูดีๆ

ครูที่ดีจะทำให้ชั้นเรียนการออกกำลังรู้สึกเหมือนงานเลี้ยง มากกว่าการออกกำลัง  ไม่ว่าจะเป็นซุมบ้า สปินนิ่ง หรือต่อยมวย ควรหาผู้ฝึกสอนที่จะทำให้คุณอยากมาเข้าคลาส ถ้าคุณหาไม่ได้ การทำตามไอดอลด้านการออกกำลังบนเฟสบุ๊ค การออกกำลังกายกับดีวีดีของเทรนเนอร์คนดัง หรือการอ่านคำแนะนำของพวกเขาในนิตยสาร ก็สามารถเป็นแรงจูงใจที่ทรงพลัง ในการปฏิบัติตามตัวอย่างของพวกเขาได้เช่นกัน

8 จ่ายเงิน

ถ้าคุณลงทุนในเรื่องการออกกำลังกาย คุณมักจะพยายามมากขึ้นเพื่อให้คุ้มค่าเงิน การเป็นสมาชิกยิม หรือจ่ายเงินเข้าคลาสออกกำลังดีๆ สามารถเป็นสิ่งที่บังคับตัวคุณเองให้ไปจริงๆ หรือติดสินบนตัวเอง ด้วยการลงทุนที่เล็กกว่า เช่น ซื้อรองเท้าวิ่งคู่ใหม่ หรือหูฟังอันใหม่ให้ตัวเอง

9 อย่าทำมากเกินไป

วิธีหนึ่งที่จะหยุด นิสัยรักการออกกำลังกาย ของคุณ ก่อนที่จะเริ่มต้นได้ชงัดที่สุดก็คือ การได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่เริ่มต้น (หรือคนที่กลับไปออกกำลังหลังจากหยุดเป็นเวลานาน) ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการพยายามทำมากเกินไป หรือเร็วเกินไป ซึ่งอาจทำให้คุณเจ็บหรือล้า หรือแย่กว่านั้นคือ บาดเจ็บจริงๆ ที่ทำให้คุณต้องพักผ่อนยาวไปเลย เป็นเรื่องปรกติ ที่จะมีการเจ็บและล้ากล้ามเนื้อเล็กน้อย หนึ่งหรือสองวันหลังจากการออกกำลัง แต่ถ้าคุณเริ่มรู้สึกป่วย หรือเหนื่อยมาก คุณอาจจะออกกำลังมากเกินไป

10 ใช้เทคโนโลยี (และสังคม) 

สำหรับบางคน การรู้สึกดีจากการออกกำลังกาย ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทำต่อไป แต่คนอื่นอาจต้องการตัวช่วยเล็กน้อย เพื่อให้ตัวเองลุกจากเตียงในทุกเช้า ถ้าคุณชอบสถิติและตัวเลข คุณอาจจะพบว่าการใช้แอพ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องนับก้าว สามารถช่วยให้คุณอยู่ในเส้นทางของกิจวัตรใหม่ได้ และลองใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ผสมผสานกับเครือข่ายสังคมของคุณ เช่น การปล่อยให้เฟสบุ๊ครายงานว่า คุณเพิ่งวิ่งไป 3 ไมล์หรือเข้าไปในยิม เมื่อเพื่อนของคุณเริ่มถามคุณ เกี่ยวกับนิสัยการออกกำลังกายใหม่ของคุณ ก็จะยากกว่าที่จะปล่อยให้มันล้มเหลว เมื่อเวลาผ่านไป

11 หลอกตัวเองด้วยรางวัล

ให้เฝ้ารอการออกกำลังกาย ด้วยการทำเหมือนกับว่า มันเป็นโอกาสพิเศษ อาจจะเป็นเพลงที่จะฟังแค่ตอนวิ่ง รายการทีวีที่คุณจะดูแค่ตอนวิ่งบนลู่วิ่ง การกินข้าวกับแฟนหลังเรียนโยคะ หรือของหวานพิเศษ ที่คุณจะอนุญาตให้ตัวเองกินเฉพาะวันที่ออกกำลัง คุณจะเริ่มมองว่ามันน่าเบื่อน้อยลง และสนุกมากขึ้นกับการได้รับรางวัล

นิสัยรักการออกกำลังกาย

12 กำหนดเป้าหมายที่ทำให้สำเร็จได้

คนส่วนใหญ่กำหนดเป้าหมายผิด คือตั้งเป้าสูงเกินไป จนไม่สามารถทำได้ จริงๆ แล้วสิ่งสำคัญคือการมุ่งไปที่เป้าหมายเล็กๆ ตัวอย่างเช่น การลดหกปอนด์ในหกสัปดาห์ หรือวิ่ง 5 กม.ในสองเดือน และฮาล์ฟมาราธอนในหนึ่งปี คุณอาจตั้งเป้าหมายใหญ่ๆ ไว้ก็ได้ แต่ต้องมีเป้าหมายย่อยๆ ที่สามารถทำได้ในระหว่างนั้น การประสบความสำเร็จกับเป้าหมายเล็กๆ จะทำให้คุณมีกำลังใจ ที่จะก้าวสู่เป้าหมายใหญ่ในที่สุด

13 เขียนมันออกมา

การศึกษาในอังกฤษเมื่อปี 2002 พบว่า เมื่อผู้ใหญ่ถูกบอกให้จดบันทึกปริมาณการออกกำลังในช่วงสองสัปดาห์ คนที่ทำแผนอย่างชัดเจนว่า จะออกกำลังเมื่อไรและที่ไหน จะออกกำลังอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ ถึง 91% และมีแค่ 38% ของคนที่ไม่ได้วางแผนที่ทำแบบนั้น การมีกำหนดเวลาและวางแผนอย่างชัดเจน จะทำให้คุณมีอุปสรรคน้อยลง(เช่น การลืมรองเท้า) ในวันที่คุณออกกำลัง

14 สร้างพิธีกรรม

สิ่งสำคัญที่สุดเกี่ยวกับการสร้างกิจวัตร ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรืออย่างอื่น คือต้องทำให้เป็นนิสัย คุณสามารถช่วยเร่งกระบวนการนี้ ด้วยการสร้างพิธีกรรมที่นำไปสู่การออกกำลังกายของคุณ เช่น ปูเสื่อโยคะหน้าทีวีเมื่อคุณตื่นในตอนเช้า หรือฟังเพลงที่ชอบเพื่อให้คุณคึกคัก ก่อนจะไปวิ่ง ก่อนที่คุณจะรู้ตัว สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะส่งสัญญาณไปที่สมองว่า ถึงเวลาที่จะออกกำลังกายแล้ว ไม่ใช่เวลาที่จะหาข้ออ้างอื่นๆ

15 วางแผนการไปพักผ่อน (ที่เน้นไปที่การออกกำลัง)

การผสมผสานสานการไปพักผ่อนกับการออกกำลังเป็นการให้รางวัลที่ดี เช่น ถ้าคุณต้องการไปอิตาลี ให้เข้าร่วมกับทัวร์จักรยานขณะที่คุณอยู่ที่นั่น หรือเข้าร่วมกับการแข่งขันที่จัดขึ้นเฉพาะที่ เช่น มาราธอนที่ปารีส หรือแค่จองตั๋วไปท่องเที่ยวในที่ซึ่งมีกิจกรรมทางกายด้วย เช่น ไปปีนเขา หรือเล่นสกี

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *