ตั้งแต่หัวหน้าที่พยายามหาข้อผิดพลาดในการทำงาน ไปจนถึงเพื่อนที่ตำหนิการใช้ชีวิตของคุณ นี่คือเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญในการรับมือกับคำวิจารณ์พวกนั้น
คำวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่น ไม่ว่ามันจะมาในรูปของการให้ความเห็น การติชม หรือคำพูดที่บั่นทอนจิตใจ เราทุกคนล้วนต้องเจอสิ่งเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีงานวิจัยเมื่อมี 2007 ชี้ว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ในที่ทำงาน ทำให้ระดับความเครียดในการทำงานเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่คำวิจารณ์จะทำให้คุณเครียดได้มากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะรับมือกับมันอย่างไรด้วย
ก่อนที่จะไปหาวิธีรับมือกับคำวิจารณ์ ลองมาดูกันก่อนว่าคุณรับมือกับคำวิจารณ์ได้ดีหรือเปล่า ด้วยการลองทำแบบทดสอบนี้ จากนั้นก็มาหาวิธีสวยๆ ในการรับมือกับคำวิจารณ์กัน
แบบทดสอบ: คุณรับมือกับคำวิจารณ์ได้ดีแค่ไหน?
1 หัวหน้าวิจารณ์งานของคุณในเชิงไม่สร้างสรรค์
(ก) คุณป้องกันตัวเอง และมองหาคนอื่นหรือสิ่งอื่นมาเป็นข้ออ้าง
(ข) คุณขอบคุณ คุณมองการวิจารณ์ในเชิงไม่สร้างสรรค์เป็นโอกาสเพื่อเรียนรู้และเติบโต
2 รุ่นน้องวิจารณ์สไตล์การทำงานของคุณ
(ก) คุณโกรธอย่างรุนแรงแล้วต่อว่าอย่างสาสม
(ข) คุณไม่สนใจ
3 คุณถกเถียงเรื่องที่คุณสนใจกับเพื่อน แล้วเขาวิจารณ์มุมมองของคุณ คุณจะ
(ก) รู้สึกเหมือนคนโง่แล้วทำตัวเย็นชาตลอดเวลาที่เหลือ
(ข) คิดว่าทุกคนเชื่อในมุมมองของตัวเอง
4 เพื่อนบอกว่า “เธอไม่เคยโทรหาฉันเลย” คุณจะ
(ก) โกรธแล้วตะโกนว่า “เธอก็ไม่เคยโทรหาฉันเหมือนกัน”
(ข) พูดความจริงอย่างเรียบๆ อย่างเช่น “ฉันโทรหาเธอสัปดาห์ที่แล้ว เราคุยกันตั้ง 20 นาที”
5 คุณเพิ่งไปตัดผมมา คุณชอบมัน แต่เพื่อนมองครั้งเดียวแล้วก็พูดว่า “มันดูเด็กเกินไปหรือเปล่า เธออายุมากเกินกว่าที่จะตัดทรงนี้มั้ยเนี่ย”
(ก) คุณรู้สึกเจ็บปวด แล้วนัดช่างตัดผมใหม่ทันที
(ข) คุณยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ มันดูเด็กมาก”
6 เมื่อคุณได้รับความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ คุณจะ
(ก) รู้สึกหงุดหงิด แต่คำวิจารณ์ก็คือคำวิจารณ์
(ข) จำจุดอ่อนของคุณไว้ แล้วพยายามไม่ทำอีกในอนาคต
7 แม่สามีของคุณบ่นว่า “มันสามเดือนแล้วนะที่เธอออกจากงาน เธอล้มเหลวทั้งในฐานะเมียและแม่เลย” คุณจะ
(ก) คิดว่าเธอถูก ฉันหางานไม่ได้ ฉันล้มเหลว
(ข) ใจเย็น มองตาเธอแล้วบอกเธอว่า “ฉันไม่ได้ล้มเหลว”
คำตอบของคุณบอกอะไร
เลือกข้อ (ก) เป็นส่วนใหญ่
คุณอ่อนไหวมากกับคำวิพากษ์วิจารณ์ ในประเด็นที่อาจจะส่งผลทางลบต่อความสัมพันธ์ทั้งที่ทำงานและที่บ้าน อาจจะเป็นพ่อแม่แข็งกร้าวและช่างวิจารณ์มากเกินไปตอนเลี้ยงดูคุณ ดังนั้น ตอนนี้คุณจึงมองการวิจารณ์เป็นความเจ็บปวดและการปฏิเสธ ทั้งที่ในความเป็นจริง การวิจารณ์ในเชิงทำลายเป็นแค่การให้ความเห็นในเรื่องพฤติกรรมของคุณ ไม่ใช่การตัดสินคุณในฐานะคนๆ หนึ่ง
เลือกข้อ (ข) เป็นส่วนใหญ่
ไม่มีใครชอบถูกวิจารณ์ แต่คุณมีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะรับฟังโดยไม่โกรธ และแสดงออกมากเกินไป ในความเป็นจริง คุณมองว่าเป็นโอกาสที่จะเรียนรู้และปรับปรุง ถ้าคุณสงสัยเจตนาของผู้วิจารณ์ คุณก็ไม่มีปัญหาที่จะถามรายละเอียด เช่น “คุณบอกฉันได้มั้ยว่าจะปรับปรุงได้ยังไง?” และคุณมั่นใจในตัวเองเพียงพอที่จะบอกว่า คำวิจารณ์ของเขาหรือเธอทำให้เจ็บปวดและไม่สร้างสรรค์เลย
วิธีรับมือกับคำวิพากษ์วิจารณ์
1 อย่าป้องกันตัวเอง
ใครบ้างที่จะไม่อยากตอบโต้เมื่อหัวหน้าพูดบางอย่าง เช่น “รายงานนี้ไม่ดีพอ คุณต้องทำใหม่” ด้วยคำว่า “ไม่ยุติธรรมเลย ถ้าไม่ให้งานชั้นเพิ่ม ชั้นก็ไม่ต้องเร่งทำจนเป็นแบบนี้” แต่การป้องกันตัวเองและการหาข้ออ้าง มีแต่จะทำให้คุณดูไร้ความสามารถ และหัวหน้าจะยิ่งมองว่าคุณผิดมากขึ้น
เคล็ดลับ: อย่าปล่อยให้คำวิพากษ์วิจารณ์ปิดกั้นการสื่อสารและโอกาสที่คุณจะไปถึงเป้าหมาย ให้ควบคุมสถานการณ์ด้วยการมองคำวิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์ว่า เป็นสิ่งทำให้คุณได้เรียนรู้และเติบโต ถามผู้วิจารณ์ว่าถ้าเป็นเขา เขาจะเปลี่ยนแปลงอะไร หรือเขาจะทำให้แตกต่างได้ยังไง สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือคุณจะได้รับฟีดแบ็ค ความคิดเห็น และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก
2 จัดการกับคำวิจารณ์ที่บั่นทอน
คำวิจารณ์สามารถเป็นได้ทั้งในเชิงสร้างสรรค์หรือบั่นทอน คำวิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์เป็นประโยชน์และช่วยแก้ไขสถานการณ์ ขณะที่คำวิจารณ์ในเชิงบั่นทอนมักจะไม่ยุติธรรม และมักจะทำให้เสียกำลังใจ เช่น “งานของคุณไม่เรียบร้อยเลยสักครั้ง คุณนี่หวังอะไรไม่ได้เลย”
เคล็ดลับ: มันเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อคุณกำลังเจอกับคำวิจารณ์เชิงบั่นทอน พยายามอย่าเสียกำลังใจ ให้หายใจลึกๆ สองสามครั้งเพื่อสงบใจ ก่อนที่คุณจะตอบโต้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องบอกให้ผู้วิจารณ์รู้ว่า ข้อกล่าวหาของพวกเขาไม่ถูกต้องและคุณผิดหวัง การตอบสนองที่ดีที่สุดกับคำวิจารณ์เชิงทำลายก็ง่ายๆ แค่ไม่เห็นด้วย เช่น “งานของฉันไม่ได้ไม่เรียบร้อยทุกครั้ง และฉันก็ไม่ใช่คนที่หวังอะไรไม่ได้เลยอย่างแน่นอน”
3 อย่าเสียความเคารพตนเอง
ทัศนคติของคุณที่มีต่อคำวิจารณ์อาจทำให้คุณเสียความเคารพตนเอง ตัวอย่างเช่น เพื่อนร่วมงานอาจจะพูดตอนผ่านมาว่า “โต๊ะของคุณรกมาก คุณไม่เป็นระเบียบเลย” ถ้าคุณมองการวิจารณ์พฤติกรรมของคุณเป็นการโจมตีตัวคุณ ความเคารพตนเองของคุณก็อยู่ในความเสี่ยง
เคล็ดลับ: ตอบสนองอย่างมั่นใจกับบางสิ่ง เช่น “ใช่ จริงๆ ฉันไม่ใช่คนที่มีระเบียบที่สุดในโลกหรอก” คุณกำลังทำให้คนนั้นรู้ว่า คุณยอมรับคุณสมบัติในทางลบของตัวเอง และไม่ได้เสียใจกับสิ่งเหล่านั้น หรือปล่อยให้ตัวเองถูกทำลายด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์ กุญแจสำคัญคือความมั่นใจในตัวเอง คุณเชื่อว่าคุณมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลง แต่เฉพาะเมื่อคุณต้องการเท่านั้น
4 หาข้อเท็จจริง
คำวิจารณ์อย่าง “ฉันคิดว่าคุณรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยาก เพราะคุณขี้อายมาก” อาจฟังดูคลุมเครือและไม่สอดคล้องกัน คุณไม่แน่ใจว่าคำวิจารณ์นี้มีประโยชน์และสร้างสรรค์หรือไม่ คุณจึงถูกปล่อยให้รู้สึกสับสน
เคล็ดลับ: เมื่อได้รับคำวิจารณ์ที่คลุมเครือ อย่ารีบร้อนตัดสินผู้วิจารณ์ แต่ควรขอรายละเอียดเพิ่มเติม ลองทำแบบนี้ “ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันขี้อาย?” ถ้าคำวิจารณ์นั้นเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ คุณจะสามารถใช้ข้อมูลนั้นเพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาและก้าวต่อไป ถ้าคำวิจารณ์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์หรือบั่นทอน ประเด็นนี้ก็จะถูกโยนกลับไปที่คนวิจารณ์เอง
5 หลีกเลี่ยงการหาข้ออ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ บางคำวิจารณ์นั้นดีและถูกต้อง อย่างเช่นเมื่อมีคนบอกว่า “คุณควรจะโทรมาบอกว่าคุณจะมาช้าหนึ่งชั่วโมง การปล่อยให้ฉันรอเป็นการไม่คิดถึงคนอื่น” ถ้าคุณพยายามหาข้ออ้าง แทนที่จะยอมรับตามความเป็นจริง คุณก็อาจทำให้เสียความสัมพันธ์ที่ดีได้
เคล็ดลับ: ยอมรับกับผู้วิจารณ์ว่าพวกเขาถูก ซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้คุณรู้สึกดีกว่า แต่ยังจะทำให้คุณดูดีในสายตาคนอื่นด้วย การยอมรับความรับผิดชอบอย่างเต็มที่กับพฤติกรรมของคุณ การขอโทษ และแก้ไขให้ดีขึ้น จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้ดีได้
6 ยอมรับบางส่วน
หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดในการรับมือกับคำวิพากษ์วิจารณ์ก็คือ การกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรมในหลายๆ เรื่องที่เอามาผสมปนเปกัน อย่างเช่น “คุณนี่ไว้วางใจไม่ได้เลย คุณลืมจ่ายค่าโทรศัพท์ คุณไม่เคยอยู่ด้วยเลยตอนที่ฉันต้องการคุณ”
เคล็ดลับ: คุณต้องไม่ทำให้สถานการณ์ลุกลามด้วยตอบโต้กลับ แต่ก็ไม่ดีที่จะเดินหนีไปเฉยๆ ถูกล่ะ มันเป็นความจริงที่คุณอาจะจะลืมจ่ายค่าโทรศัพท์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณไม่เคยอยู่เคียงข้างคนที่คุณรักนี่ยา ทางเลือกที่ดีที่สุดคือยอมรับในส่วนที่ถูกต้องของคำวิจารณ์ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพูดว่า “คุณถูก ฉันลืมจ่ายค่าโทรศัพท์ ฉันขอโทษ” การแสดงความใจเย็น ไม่โมโหโทโส หรือผิดหวังกับคำวิจารณ์ที่ไม่ยุติธรรม เป็นการทำให้พลังในเชิงบั่นทอนของมันหมดอำนาจลงไป
วิธีให้คำวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์
ไม่มีใครชอบคำวิจารณ์ในแง่ลบ ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณที่เป็นคนวิจารณ์ ลองใช้วิธีเหล่านี้เพื่อให้คำวิจารณ์แก่คนอื่นอย่างสร้างสรรค์
- เริ่มด้วยความเป็นบวก พูดสิ่งที่ดีเกี่ยวกับงานของพวกเขาก่อน ซึ่งจะช่วยให้พวกเขายอมรับคำวิจารณ์ของคุณ และไม่รู้สึกว่าล้มเหลว
- ใช้กลยุทธ์ วิจารณ์อย่างนุ่มนวลด้วยการพูดว่า “เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก” เพื่อว่าคนนั้นจะไม่รู้สึกแย่เกินไป และเสียกำลังใจ
- เน้นไปที่พฤติกรรม การวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์เป็นเรื่องเกี่ยวกับการช่วยให้คนปรับปรุง และไม่บอกพวกเขาว่า พวกเขานั้นช่าง “หมดหวัง” จริงๆ
- เลือกเวลาและสถานที่ อย่าวิจารณ์ใครต่อหน้าคนอื่น หรือตอนคนนั้นกำลังเหนื่อยหรือเสียใจ
- ให้คำแนะนำ เสนอแนะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ตัวอย่างเช่น ไม่ควรพูดว่า “ฉันทนเสียงเพลงดังๆ ของเธอไม่ได้” แต่พูดว่า “ฉันรู้สึกว่าเพลงเสียงดังรบกวน ช่วยลดเสียงลงหลังสองทุ่มได้มั้ย?”
- อย่าพูดซ้ำซาก หลีกเลี่ยงการจี้ไปยังข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ เก็บคำวิจารณ์ไว้ในเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้
- พยายามจบด้วยข้อความที่เป็นบวก ถ้าทำได้ และถ้าเหมาะสม ทำให้คนที่คุณวิจารณ์รู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับพวกเขา
Average Rating