
การนั่งทำงานโต๊ะเป็นเวลานานๆ สามารถเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้ และนี่คือ 6 ปัญหาสุขภาพคนทำงานที่ต้องเสี่ยงเจอ พร้อมวิธีการป้องกัน
คนเราใช้เวลาในตอนตื่นส่วนใหญ่อยู่ที่ทำงาน..หรือใครว่าไม่จริง?! นั่นหมายความว่า สภาพแวดล้อมในที่ทำงานมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพของเรา แต่โชคยังดี ที่คุณไม่ต้องลาออกจากงานเพื่อมีสุขภาพที่ดี เพราะคุณสามารถใช้เวลาในที่ทำงานเพื่อรักษาสุขภาพให้ดีได้ มาทำความรู้จักกับปัญหาสุขภาพคนทำงานที่มีโอกาสเจอกันมากที่สุด และวิธีป้องกัน
ปัญหาสุขภาพคนทำงานที่อาจเกิดกับคุณได้
1 Carpal Tunnel Syndrome (กลุ่มโรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ)

ต้นตอของปัญหา
การเคลื่อนไหวใดก็ตามที่เกดิขึ้นซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ สามารถทำฝห้เกิดอาการบาดเจ็บหรือปวดได้ ซึ่งกลุ่มโรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือนี้ ไม่ใช่แค่อาการเมื่อยล้าจากการพิมพ์งานมากเกินไป มันเป็นอาการปวด ชา กล้ามเนื้ออ่นแรง หรืออาจเจ็บร้าว เมื่อเส้นประสาทที่ส่งผ่านท่อนแขนถูกกดทับโดยเส้นเอ็นที่บวมขึ้นในบริเวณข้อมือ
การป้องกัน
ก่อนที่คุณจะต้องบำบัดอาการนี้ด้วยการฝังเข็ม ยา หรือแม้แต่การผ่าตัด การยืดกล้ามเนื้อหรือการบริหารบางท่าสามารถช่วยคลายความตึงเครียดที่มือได้ และผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ที่ตรงข้ามกับความเชื่อโดยทั่วไปก็คือ ในขณะที่พิมพ์งาน ข้อมือของคุณไม่ควรวางลงบนที่รองข้อมือซึ่งอยู่ด้านล่างของคีย์บอร์ด แต่ควรใช้มันเป็นเพียงตัวกำหนดว่าข้อมือคุณควรอยู่สูงแค่ไหน โดยมือควรอยู่เหนือที่วางข้อมือ และควรใช้มันสำหรับการสางมือในขณะที่พักการจากการพิมพ์งานเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ลองยืดข้อมือด้วยการวางมือราบบนผนัง หรือยืดแขนไปข้างหน้าแล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งดึงมือเข้าหาตัว
2 ปวดหลังส่วนล่าง

ต้นตอของปัญหา
การนั่งนานหลายๆ ชั่วโมง โดยเฉพาะถ้าคุณนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง และไม่ขยับเปลี่ยนท่าเป็นพักๆ มันสามารถทำลายร่างกายคุณได้เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ โดยจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในสหรัฐฯ พบว่า อาการปวดหลังเป็นสาเหตุที่ทำให้คนขาดงานที่พบบ่อยที่สุด
และท่าทางที่ไม่เหมาะสมเวลานั่งโต๊ะทำงาน ไม่ใช่แค่การนั่งหลังงอ แต่ท่านั่งที่ทำให้แอ่นหลังมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้เช่นกัน
การป้องกัน
นอกเหนือจากการระวังท่าทางในการนั่งขณะทำงานแล้ว การออกกำลังเป็นประจำ รวมถึงการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องให้แข็งแรง ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยลดการกดทับที่หลังส่วนล่างได้ คุณผู้ชายที่ชอบเอากระเป๋าสตางค์หนาๆ ใส่ไว้ที่กระเป๋ากางเกงหลัง ก็ควรระวังเช่นกัน เพราะการนั่งทับกระเป๋าตังค์ใบหนาๆ นานๆ ทำให้เกิดการกดทับที่เส้นประสาท ซึ่งสามารถทำให้เกิดการเจ็บหลังได้
ระวังของหนัก
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของอาการปวดหลังในที่ทำงานก็คือ การยกหรือถือของอย่างไม่ถูกต้อง การเรียนรู้และทำตามวิธีการที่ถูกต้องในการยกของและถือของ สามารถป้องกันอาการปวดหลังได้ นั่นก็คือมีสติเสมอก่อนที่จะยกอะไร ขณะยกให้น้ำหนักอยู่ใกล้กับช่วงเอวมากที่สุด หลีกเลี่ยงการบิดหลังหรือเอียงไปข้างๆ กระจายน้ำหนักให้สม่ำเสมอ พยายามใช้การดันแทนการดึง และสิ่งสำคัญก็คือควรรู้ถึงข้อจำกัดของตัวเอง อย่าพยายามทำอะไรที่เกินกำลัง
3 ปัญหาข้อต่ออื่นๆ

ต้นตอของปัญหา
ร่างกายคนเราถูกสร้างมาเพื่อการเคลื่อนไหว การอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไปสามารถทำให้ข้อต่อเกร็งและตึงได้ การนั่งเก้าอี้นานๆ เป็นการรั้งให้กล้ามเนื้อสะโพกที่ช่วยในการยืดหดขาหดตัวและตึง กล้ามเนื้อสะโพกที่ตึงนี้จะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้เช่นกัน เนื่องจากกล้ามเนื้อสะโพกที่แข็งตึง จะทำให้กระดูกเชิงกรานบิดไปข้างหน้า และเกิดแรงกดมาที่หลัง
การป้องกัน
นอกเหนือจากการลุกจากโต๊ะเป็นระยะๆ อย่างสม่ำเสมอ และการเดินไปรอบๆ เล็กน้อย เมโยคลินิกแนะนำให้ทำท่าบริหารเพื่อยืดสะโพกด้วย
ยืดสะโพกด้วยท่า Deep Squat Stand

ใช้ท่านี้เพื่อยืดสะโพกเป็นประจำ วิธีการก็คือ ยืนแยกขาแล้วย่อเข่าให้ต่ำที่สุดจนกระทั่งคุณสามารถใช้มือจับปลายเท้าไว้ได้ ตามองไปข้างหน้า อกยืดตรง จากนั้น เหยียดขายืนตรงด้วยการดันสะโพกไปด้านหลัง โดยมือยังจับปลายเท้าเอาไว้ ท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อแฮมสตริงที่ด้านหลังด้วย
4 ตาล้า

ต้นตอของปัญหา
คนทำงานออฟฟิศที่ใช้เวลานับชั่วโมงหน้าจอคอมพิวเตอร์ มักจะพบว่าตาเกิดอาการเบลอหลังจากนั้น รวมทั้งอาจรู้สึกแสบเคืองดวงตา โดยเมโยคลินิกชี้ว่า อาการเหล่านี้ (รวมทั้งอาการน้ำตาคลอ หรือตาแห้ง ปวดหัว หรือปวดคอ) เป็นอาการบ่งชี้ถึงอาการตาล้า (Eyestrain)
การป้องกัน
งานวิจัยบ่งชี้ว่า กล้ามเนื้อที่ช่วยให้ดวงตาเพ่งมองได้ชัดเจนสามารถขาดความยืดหยุ่นได้ ถ้าใช้เพ่งมองไปที่จุดใดจุดหนึ่ง (เช่น จอคอมพิวเตอร์) นานเกินไป เพื่อป้องกันดวงตาอ่อนล้า ควรให้ระยะทางจากดวงตาไปถึงหน้าจอควรห่างหนึ่งช่วงแขน ซึ่งคุณควรมองเห็นได้สบายๆ ในระยะขนาดนั้น โดยไม่ต้องหยีตา ถ้าไม่สามารถอ่านได้ชัดเจนในระยะนั้น ก็ขยายขนาดตัวหนังสือขึ้นอีกหน่อย และเมโยคลินิกให้คำแนะนำว่า ควรลดความจ้าของแสงที่หน้าจอลง รวมทั้งควรพักสายตาบ่อยๆ ด้วยการละสายตาจากหน้าจอมองไปทางอื่น
5 แบคทีเรีย

ต้นตอของปัญหา
ดร.ชาร์ลส เกอร์บ้า ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยอะริโซน่า บอกว่าในแง่ของแบคทีเรียแล้ว โต๊ะทำงานสกปรกมากกว่าโถส้วมถึง 400 เท่า เพราะคนเรามักชอบเปลี่ยนโต๊ะทำงานให้เป็นโต๊ะอาหาร เพราะพวกเขาชอบกินอาหารที่โต๊ะ แต่ไม่เคยทำความสะอาดมันอย่างจริงจัง โดยโทรศัพท์บนโต๊ะเป็นที่ซึ่งสกปรกที่สุด รองลงมาคือพื้นผิวโต๊ะ ตามด้วยเมาส์และคอมพิวเตอร์ แต่ปัญหาแบคทีเรียบนพื้นโต๊ะอาจรุนแรงกว่านั้นได้ ด้วยเศษขนมปังหรืออาหารอื่นๆ ที่อาจร่วงติดอยู่ตามคีย์บอร์ด ทำให้มีหนูเข้ามากินและแพร่เขื้อโรคเอาไว้ได้
การป้องกัน
ถ้าคุณชอบกินอาหารกลางวันที่โต๊ะ คุณควรแน่ใจว่าได้ล้างมือสะอาดแล้ว และเช็ดทำความสะอาดโต๊ะทำงานทุกวัน มันยังเป็นการป้องกันที่ดี ถ้าฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคในอากาศเป็นประจำ เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่เกิดจากการไอและจามของคนทำงาน และที่ครัวกลางของออฟฟิศ ก็พยายามอย่าใช้ฟองน้ำเช็ดเคาน์เตอร์หรือโต๊ะ ฟองน้ำมักเป็นแห่งสะสมของแบคทีเรีย ควรใช้กระดาษที่เช็ดแล้วทิ้งจะดีกว่า
6 ความเครียด

ต้นตอของปัญหา
ความเครียดในการทำงานเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าคุณทำงานที่ต้องใช้ร่างกาย หรือมีกิจกรรมที่ต้องใช้ร่างกายเป็นประจำ มันก็อาจช่วยในการบรรเทาความเครียดไดในระดับหนึ่ง แต่สำหรับคนที่ถูกผูกติดอยู่กับโต๊ะ คุณก็อาจสติแตกเพราะความเครียดขึ้นมาได้ในวันใดวันหนึ่ง จากข้อมูลของรอยเตอร์ชี้ว่า ราว 1 ใน 6 ของคนทำงานในสหรัฐฯ บอกว่าความโมโหและหงุดหงุดทำให้เกดิความเสียหายทางทรัพย์สินได้ และ 2-3% ของคนทำงานก็รับว่า เคยเกิดการตบตี หรือใช้กำลังกับคนอื่นที่ทำงาน ซึ่งเมื่อดูตัวเลขของคนทำงานในสหรัฐฯ ที่มีอยู่คร่าวๆ ราว 100 ล้านคน นั่นก็เท่ากับตัวเลขราว 3 ล้านคนเลยทีเดียว
นอกจากนี้ RJC Associates บริษัทด้านพัฒนาแรงงาน ก็รายงานว่า ราว 22% ของคนทำงานในสหรัฐฯ บอกว่า พวกเขาต้องร้องไห้ เพราะความเครียดในที่ทงาน และ 9% บอกว่าความเครียดนำไปสู่ความรุนแรงทางร่างกาย
การป้องกัน
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุด ในการรับมือกับความเครียดก็คือ การรู้ว่าจะจัดลำดับความสำคัญเรื่องงานอย่างไร และไม่รับงานมากกว่าที่คุณจะสามารถรับมือได้ ลองคำนวณว่าคุณจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการรับมือกับปริมาณงานในปัจจุบันของตัวเอง เพื่อที่คุณจะได้เห็นว่า คุณมีความสามารถมากแค่ไหน ถ้าคุณยุ่งมากๆ และนายก็ยังขอให้ทำงานเพิ่ม คุณจะได้บอกว่าไม่ หาเหตุผลที่ชัดเจนและเห็นได้ แต่ก็ต้องเสนอทางออกด้วย นอกจากนี้ก็ควรใช้เทคนิคการหายใจหรือการผ่อนคลายง่ายๆ ซึ่งทำได้ที่โต๊ะทำงาน หรือการหยุดงานออกไปข้างนอกเสียบ้าง แต่ก็มีความขัดแย้งบางอย่างที่อาจต้องการคนกลางที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาช่วยเหลือ
และเชื่อหรือไม่ว่า วิดีโอเกมเป็นหนึ่งในวิธีการในการคลายเครียดจากการทำงานที่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตามถ้าความเครียดมากเกินกว่าจะรับมือ การหางานใหม่อาจเป็นหนทางที่บรเทาความเครียดจากงานได้ดีที่สุด
โรคอื่นๆ ที่อาจตามมากจากการนั่งทำงานนานเกิน

นอกจากโรคที่เกิดจากการทำงานโดยตรงที่กล่าวไปแล้ว คนทำงานที่นั่งทำงานนานๆ และมีความเครียดสูง ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคพวกนี้ได้ง่ายกว่าด้วย
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักเกิดกับสาวๆ ที่นั่งทำงานนานๆ จนลืมเข้าห้องน้ำ หรือชอบอั้นปัสสาวะเป็นประจำ ซึ่งมักจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทางท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบ
- ความดันโลหิตสูง ภัยเงียบที่ไม่มีอาการมักพบเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเกิดจากปัจจัยบางอย่าง ได้แก่ การมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ จะมีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากกว่าคนอื่นถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังเกิดจากโรคอ้วน ความเครียด การรับประทานอาหารรสเค็ม การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือผู้ที่ทำงานนั่งโต๊ะในสำนักงาน จะมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ที่ทำงานใช้กำลัง
- กรดไหลย้อน คนที่รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา รีบมากจนเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เครียดจัดจนอาหารไม่ย่อย และคนที่สูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้าจัด มักเสี่ยงกับการเป็นโรคกรดไหลย้อน และผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มาเป็น 10 ปี อาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารส่วนปลายได้อีกด้วย
- ไมเกรน ปวดศีรษะเรื้อรัง ถ้าเคยรู้สึกว่าเวลานั่งทำงานเครียดๆ จะรู้สึกปวดหัวบริเวณขมับด้านหน้าศีรษะ หรือหลังต้นคอ นั่นคือสัญญาณเตือนให้คุณรู้ถึงสภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคไมเกรน การพักผ่อนไม่เพียงพอ แสงแดด ความร้อน และขาดฮอร์โมนบางชนิดก็เป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน
- ต้อหิน ตาพร่ามัว 1 ใน 10 ของคนอายุ 40 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคต้อหิน หรือกำลังเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัว และที่อันตรายที่สุดคือ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องตาอาจบอดได้ สาเหตุเกิดจากการใช้สายตานานๆ การอักเสบ หรือติดเชื้อของกระจกตาของการใส่คอนแทคเลนส์ การที่มีความดันในลูกตาสั้นหรือยาวมากๆ ผู้ป่วยโรคต่อมไทรอยด์ และกรรมพันธุ์ ดังนั้น ควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้
Average Rating