4 อาหารที่กินคู่กันแล้วจะยิ่งดีต่อสุขภาพ

Read Time:4 Minute, 3 Second

อาหารที่กินคู่กัน แม้กินเดี่ยวๆ จะดีอยู่แล้ว แต่ถ้ายิ่งกินคู่กัน ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น เหมือนพระเจ้าส่งมาให้คู่กัน!

แบทแมนกับโรบินเป็นคู่หูที่ดี แต่ละคนเป็นส่วนเสริมให้อีกคน น่าประหลาดใจที่เป็นเหมือนกับอาหาร แม้สารอาหารบางอย่างดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่จะได้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อไปรวมกับสิ่งที่ถูกต้อง โดย มาร์นี่ ซัมบัล เจ้าของ Trimarni Coaching and Nutrition ในสหรัฐฯ บอกว่า การจับคู่อาหารสามารถช่วยให้เราได้รับการผสมผสานจากสารอาหารต่างๆ และคือเหตุผลที่เรากินอาหารหลายอย่าง และการจำกัดหรือควบคุมอาหารบางอย่างถือเป็นสิ่งไม่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้น

เมื่อมองหาการจับคู่อาหารที่ดี ควรพิจารณาจากการต่อต้านอนุมูลอิสระและองค์ประกอบทางเคมีซึ่งจะให้การส่งเสริมเพิ่มเติม นี่เป็นคำแนะนำจาก อิลาน่า คาทซ์ ผู้ก่อตั้ง Optimal Nutrition for Life ในสหรัฐฯ ต่อไปนี้คือการจับคู่อาหาร 5 แบบพร้อมสูตรอาหารที่ผสมผสานพวกมันได้ดีที่สุด

อาหารที่กินคู่กัน..ก็ยิ่งดี

1 มะเขือเทศและอะโวคาโด

ทำไมถึงต้องกินคู่กัน: เพื่อลดการอักเสบ

ถ้าคุณเป็นคนรักอาหารเม็กซิกัน การผสมมะเขือเทศกับอะโวคาโดอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา ข่าวดีก็คือเชื่อกันว่าไขมันที่ดีต่อสุขภาพในอะโวคาโด จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีน (สารต่อต้านอนุมูลอิสระทำให้ผักผลไม้มีสีแดง ส้ม และเหลือง) ได้ดีขึ้น การวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตทพบว่า เมื่อเติมอะโวคาโดลงในซัลซ่า คนเราจะดูดซึมไลโคปีนจากซัลซ่าได้มากกว่าถ้าไม่มีอะโวคาโดสี่เท่า อะไรที่ทำให้การจับคู่นี้ชนะเลิศ? การบริโภคไลโคปีนเพิ่มขึ้นช่วยป้องกันมะเร็ง อาการอักเสบต่างๆ และการเจ็บป่วยตามอายุ เช่น ต้อ โดยมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงยังช่วยเพิ่มประสิทธฺภาพทางโภชนาการด้วย

กินสดๆ: เพื่อให้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ สับอะโวคาโดและมะเขือเทศทำเป็นซัลซ่า หรือใช้เป็นส่วนประกอบเพื่อทำสลัด และยังสามารถได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ด้วยการเติมน้ำมันมะกอกลงไป

2 ชาเขียวกับน้ำมะนาว

ทำไมถึงต้องกินคู่กัน: เพื่อการดูดซึมสารต่อต้านอนุมูลอิสระได้มากขึ้น

ใช่แล้ว การดื่มชาเขียวกับน้ำมะนาวสดทำให้รู้สึกสดชื่น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย ตามคำกล่าวของนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยเพอร์ดิว การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Molecular Nutrition & Food Research พบว่า การเพิ่มน้ำมะนางลงในชาเขียวจะเพิ่มความสามารถของร่างกายในการดูดซึมสารต่อต้านอนุมูลอิสระของชา (คาเทชิน) เนื่องจากสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่พบในชา ชอบสภาวะที่เป็นกรดในกระเพาะ การเติมน้ำมะนาวจึงสามารถเพิ่มปริมาณของคาเทชินที่ร่างกายดึงออกมาได้ถึงหกเท่า โบนัสก็คือ ส่วนประกอบของชาบางชนิดอย่างเช่น oxalates อาจขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร แต่มะนาวจะลดผลกระทบนี้ได้

ดื่ม: เริ่มตอนเช้าด้วยการชงชาทิ้งไว้หนึ่งถึงสามนาที (ถ้าทิ้งไว้นานเกินไปจะมีรสขม) แล้วเติมมะนาวลงไปตามความชอบ (ยิ่งมากยิ่งดี)

3 นมไขมันต่ำกับกล้วย

ทำไมถึงต้องกินคู่กัน: เพื่อกระดูกที่แข็งแรงกว่า

คุณรู้ดีว่าผลิตภัณฑ์นมเป็นแหล่งที่ดีของแคลเซียม แต่สิ่งที่คุณอาจจะไม่รู้คือ อาหารที่มีอินูลิน (ใยอาหารชนิดหนึ่งที่พบในแอสพารากัส ต้นหอม หัวหอม กล้วย ข้าวสาลีและกระเทียม) ในปริมาณมาก สามารถช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซี่ยมได้ ฉะนั้น ผสมผสานแคลเซี่ยมกับอินูลิน เพื่อสร้างสูตรอาหารที่ทำให้กระดูกแข็งแรง

กินแบบไหน: สมูธตี้โปรตีนกล้วยและข้าวโอ๊ต เป็นวิธีอร่อยๆ ที่ได้ส่วนประกอบทั้งสองอย่างในทีเดียว และเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้วิตามินดี ก็ให้เลือกนมข้าวหรือนมอัลมอนด์ แล้วเติมแฟล็กซีดลงไปเพราะเป็นแหล่งไขมันที่ดีต่อสุขภาพและวิตามินดี

4 ปลาและไวน์แดง

ทำไมถึงต้องกินคู่กัน: เพื่อเพิ่มสุขภาพของหัวใจ

ปลาย่างน่ากินชิ้นหนึ่งจับคู่กับไวน์แดงเอามั้ยคะ? เอาสิคะ ถามได้! การศึกษาใน Food Research International ทำให้ทราบว่า โพลีฟีนอลของไวน์แดง (สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่มากในร่างกาย) ป้องกันกรดไขมันโอเมก้า-3จากการถูกทำลายในร่างกาย การดื่มไวน์แดงในปริมาณพอดี (หนึ่งแก้วสำหรับผู้หญิง และสองแก้วสำหรับผู้ชาย) กับปลาที่เต็มไปด้วยโอเมก้า-3 (ซัลม่อน เทราส์ ทูน่ หรือเฮอร์ริ่ง) อาจจะเพิ่มปริมาณโอเมก้า-3 ที่ร่างกายได้รับ ซึ่งดีต่อหลอดเลือดหัวใจ ส่วนประกอบทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ หากเนื่องจากแต่ละอย่างอาจจะมีแคลอรี่มากเกินไป ให้ระวังเรื่องปริมาณการกินด้วย

ไวน์กับอาหารเย็น: ปลาที่เต็มไปด้วยโอเมก้า-3 ที่คุณชอบ เอามาย่าง นึ่งหรืออบสี่ออนซ์ และจำกัดตัวเองให้ดื่มไวน์ขนาดสี่ออนซ์แค่หนึ่งแก้ว ถ้าต้องการสารอาหารมากขึ้น ให้ปรุงรสชาติปลาด้วยซอสกระเทียม คุณสมบัติเพิ่มภูมิต้านทานของกระเทียมจะเพิ่มขึ้นเมื่อจับคู่กับไวน์แดง