0
0
ถ้าคุณไม่อยากเป็นกรดไหลย้อน นี่คือข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับการกินอาหารที่กระตุ้นให้เกิด “กรดไหลย้อน” ที่คุณต้องระวัง
อาการกรดไหลย้อน เป็นความรู้สึกจุกแน่นและปวดแสบปวดร้อนบริเวณหน้าอกไปจนถึงลำคอ (ซึ่งทำให้ได้ชื่อในภาษาอังกฤษว่า Heartburn แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหัวใจเลย) อาจจะเกิดขึ้นตอนกรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาทางหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง และทำให้หลอดอาหารรู้สึกระคายเคือง พฤติกรรมการกินและอาหารบางอย่างสามารถทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน การระบุและการจำกัดตัวกระตุ้นเหล่านี้..อาจช่วยคุณได้มากกว่าที่คิด
ไม่อยากเป็นกรดไหลย้อนต้อง..
1 ไม่กินอาหารมากเกินไป
สิ่งแรกที่ต้องคิดเกี่ยวกับการเกิดกรดไหลย้อน–ไม่ใช่อาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นปริมาณของอาหารที่คุณกินในหนึ่งครั้ง เมื่อพูดถึงความเสี่ยงที่จะเกิดกรดไหลย้อน ปริมาณที่คุณกินเป็นเรื่องสำคัญ และในกรณีนี้–มากกว่าไม่ได้แปลว่าดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร ดูดีแค่ไหน หรือคุณจะชอบมากแค่ไหน การกินอาหารมากเกินไปในครั้งเดียวจะทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้มากขึ้น
Tip: พยายามใช้จานที่เล็กลงเพื่อลดสัดส่วนอาหาร
2 อย่ารีบกินรีบไป
การรีบสวาปามอาหารเป็นเรื่องไม่ควรทำ ถ้าคุณต้องการควบคุมอาการกรดไหลย้อน ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าการรีบคว้าอาหารมากินแล้วรีบไป ทำให้การย่อยไม่ดี และสามารถทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้มากขึ้น ดังนั้น กินให้ช้าลง ถ้าคุณเป็นห่วงเกี่ยวกับอาการกรดไหลย้อน
3 ระวังอาหารมันๆ
อาหารที่มีไขมันสูงมีแนวโน้มที่จะอยู่ในกระเพาะนานกว่า และยิ่งมันอยู่ที่นั่นนานกว่า ก็เป็นไปได้มากกว่าที่จะรู้สึกไม่สบาย และถ้าคุณกำลังกินอาหารที่มีไขมันสูงจานใหญ่ เช่น ไก่ มันฝรั่งหรือสัตว์ปีกทอดจำนวนมาก คุณก็จะได้รับตัวกระตุ้นอาการกรดไหลย้อนสองอย่างที่อาจเป็นอันตรายสองเท่า นั่นคืออาหารที่มากเกินไปและอาหารที่มีไขมัน
Tip ลดไขมัน คุณอาจะไม่ต้องงดอาหารที่คุณชอบ การเตรียมอาหารให้ต่างออกไปอาจจะช่วยควบคุมอาการกรดไหลย้อนได้ คุณอาจจะอบ ย่าง ปิ้งหรือเผาอาหารบางอย่างแทนที่จะทอด และคุณควรควบคุมไขมันส่วนเกินจากเนื้อและสัตว์ปีก เช่น เลาะหนังไก่ออก การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอาจจะควบคุมไขมันได้ เพื่อสร้างความแตกต่างสำหรับอาการกรดไหลย้อน และสุขภาพโดยรวมได้
4 ระวังอาหารที่เป็นกรด
อาหารที่เป็นกรด อย่างเช่นมะเขือเทศและผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยมะเขือเทศ (อย่างเช่น ซอสมะเขือเทศและซัลซ่า) และผลไม้ตระกูลส้ม (อย่างเช่น ส้ม องุ่น และมะนาว)—สามารถกระตุ้นอาการกรดไหลย้อนได้ โดยเฉพาะถ้าคุณกินในขณะท้องว่าง น้ำส้มสายชูก็มีกรดสูง—ไม่ใช่ว่าคุณจะกินน้ำส้มสายชู แต่มันเป็นส่วนประกอบในน้ำสลัดและอาหารอย่างอื่น
Tip จำกัดอาหารที่เป็นกรด
คุณมีทางเลือกอื่นมากมายสำหรับผลิตผลสดนอกจากมะเขือเทศและผลไม้ตระกูลส้ม พยายามเลือกผลไม้และผักอย่างอื่น ถ้าคุณยังต้องการกินอาหารที่เป็นกรด จำกัดขนาดสัดส่วนและกินอย่างอื่น—ที่ไม่เป็นกรด—ด้วย ทุกคนจะแตกต่างกัน จึงควรทดลองเพื่อหาจุดที่คุณรู้สึกสบายกับมัน
5 ระวังการกินช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตประกอบด้วยคาเฟอีน ซึ่งสามารถเป็นตัวกระตุ้นอาการกรดไหลย้อน ถ้าคุณทนความคิดที่จะเลิกกินช็อกโกแลตไม่ได้ การลดลงอาจช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงอาการกรดไหลย้อนได้ ดูขนาดการกินของคุณด้วย บางทีคุณอาจรับมือด้วยการกินเล็กน้อย และลองมองภาพรวมดูว่า คุณกินช็อกโกแลตหลังจากกินอาหารไขมันสูงๆ หรือเปล่า? กินตอนท้องว่าง หรือมีตัวกระตุ้นอื่นอีกหรือเปล่า ถ้ารู้จักตัวกระตุ้นก็ไปจัดการกับตรงนั้น และเอ็นจอยการกินช็อกโกแลตเล็กน้อยของคุณต่อไป
6 ระวังอาหารเผ็ดๆ
ยิ่งเผ็ดยิ่งดีใช้ไม่ได้ในกรณีนี้ ทุกอย่างที่ให้ความเผ็ดร้อนอาจจะกระตุ้นอาการกรดไหลย้อน อาหารที่มีพริกไทยและซอสเผ็ดๆ สามารถเป็นตัวกระตุ้นอาการกรดไหลย้อนได้ แต่ไม่ใช่แค่ของเผ็ดที่เป็นปัญหา สะระแหน่มีฤทธิ์เย็น–ไม่ร้อน แต่ก็อาจจะผ่อนคลายหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง ที่นำไปสู่อาการกรดไหลย้อนได้ และแม้ว่ากระเทียมและหัวหอมจะไม่เผ็ด แต่ก็เป็นอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติ ที่อาจจะกระตุ้นอาการกรดไหลย้อนได้
Tip ลดความเผ็ดร้อน
แค่เพราะคุณมีการแสบร้อนกลางหน้าอก คุณไม่จำเป็นต้องกินแต่อาหารขาดรสชาติตลอดชีวิต แค่พยายามลงความเผ็ดร้อนลง ตัวอย่างเช่น คุณไม่ต้องจุ่มปีกไก่ของคุณในซอสเผ็ด การคลายความเผ็ดลงเล็กน้อยอาจจะสร้างความแตกต่าง และมีวิธีอื่นที่จะเพิ่มรสชาติให้อาหาร ที่ไม่ต้องมีสิ่งที่เผาลิ้นคุณก็ได้
เครื่องดื่มก็กระตุ้น “โรคกรดไหลย้อน” ได้
การป้องกันกรดไหลย้อนไม่ใช่แค่เกี่ยวกับการเลือกอาหาร เครื่องดื่มบางอย่างสามารถทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนมากขึ้นได้ เช่น กาแฟ (แบบปรกติหรือไม่มีคาเฟอีน) ชาที่มีคาเฟอีน โคล่า น้ำอัดลมอื่น และเครื่องแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจะกระตุ้นกรดในกระเพาะและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถผ่อนคลายหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง นำไปสู่อาการกรดไหลย้อน และน้ำอัดลมไม่ว่าจะมีคาเฟอีนหรือไม่ สามารถทำให้ท้องอืด ซึ่งนำไปสู่อาการกรดไหลย้อนได้
Tip ลองเครื่องดื่มอื่น
เพื่อทำให้การแสบร้อนหน้าอกน้อยลง เลือกเครื่องดื่มที่ไม่เป็นฟองและไม่มีคาเฟอีน เช่น ชาสมุนไพร นม และน้ำเปล่า การกินน้ำกับอาหารยังจะเจือจางกรดในกระเพาะ ทำให้อาการกรดไหลย้อนน้อยลง คุณยังอาจจะต้องจำกัดมะเขือเทศหรือผลไม้ตระกูลส้ม เพราะมีความเป็นกรด และถ้าคุณต้องกินกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นที่อาจทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ ขนาดของแก้วที่เล็กลงอาจจะช่วยได้
เคล็ดลับลดอาการจุกเสียดและแสบร้อนกลางอก
- จดไว้ ทุกคนแตกต่างกัน ตัวกระตุ้นกรดไหลย้อนของคุณอาจแตกต่างจากของคนอื่น ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะทนกับอาหารเผ็ดได้ดีกว่าคนอื่นที่มีอาการกรดไหลย้อน และคุณอาจจะพบว่าคุณสามารถรับมือกับกาแฟถ้วยเล็กๆ ได้ตราบใดที่ไม่กินมากเกินไป คุณจะต้องเรียนรู้ว่าคุณสามารถรับมือกับอะไร และอะไรจะนำไปสู่กรดไหลย้อน และบันทึกสิ่งนั้นไว้
- ลองเคี้ยวหมากฝรั่ง การเคี้ยวหมากฝรั่งหลังอาหารเพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำลาย เนื่องจากน้ำลายจะลดความเป็นกรดและกระตุ้นกระเพาะให้เคลื่อนย้ายอาหารไปยังลำไส้เร็วขึ้น—หลักการคือ การเคลื่อนย้ายลงไปก่อนที่จะเกิดการแสบร้อนกลางหน้าอก มากีแนะนำการเลือกรสที่ไม่ใช่เปปเปอร์มิ้นท์หรือมิ้นท์ เพื่อหลีกเลี่ยงการผ่อนคลายหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง
- อย่านอนทันทีหลังอาหาร ควรเว้นสามชั่วโมงระหว่างอาหารเย็นกับเวลานอน และเนื่องจากการสูบบุหรี่และการน้ำหนักเกิน ยังอาจทำให้เกิดอาการกรดหลย้อนมากขึ้น เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น–ถ้าทำได้ และแม้ว่าอาการกรดไหลย้อนบางโอกาสถือว่าปกติ คุณอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ถ้าเกิดอาการกรดไหลย้อนบ่อยๆ
Average Rating