
ลำไส้ทำหน้าที่มากกว่าการย่อยอาหาร แต่มีบทบาทสำคัญเช่นเดียวกับสมอง และมีอิทธิพลต่ออารมณ์ สุขภาพ และแม้แต่การตัดสินใจของเรา เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูแลสุขภาพลำไส้ให้ดี
คุณอาจจะเคยได้ยินว่าสารสื่อประสาท เซโรโทนิน มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพจิตใจ แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่าอย่างน้อยร้อยละ 90 ของเซโรโทนินในร่างกาย จริงๆ แล้วสร้างขึ้นในลำไส้! ไม่ใช่สมอง!
และนั่นหมายความว่าสุขภาพของระบบย่อยอาหารมีอิทธิพลอย่างมากต่ออารมณ์ของคุณ เช่นเดียวกับความเสี่ยงของโรคต่างที่ได้ถูกเชื่อมโยงกับความไม่สมดุลของ “เซโรโทนินในลำไส้” อย่างเช่น โรคกระดูกพรุนและโรคหัวใจ นักวิจัยเพิ่งค้นพบว่า สุขภาพลำไส้มีผลต่อสุขภาพโดยรวมมากแค่ไหน และทั้งสองสิ่งมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดมากกว่าที่เราเคยคิดก่อนหน้านี้
‘สมอง’ ในท้องของคุณ

ความสัมพันธ์ของทั้งสองส่วนนี้เหนียวแน่นมาก จนนักวิทยาศาสตร์บอกว่าเรามีสมองสองอัน อันหนึ่งอยู่ในหัวและอีกอันอยู่ในลำไส้ ในทางเทคนิค ‘สมองที่สอง’ ของเรา หรือที่เรียกว่า ‘ระบบประสาทลำไส้’ ตั้งอยู่ที่ทางเดินอาหาร มันใช้สารสื่อประสาทที่แตกต่างกันมากกว่า 30 ชนิด และประกอบด้วยเส้นประสาทมากถึง 60 ล้านเส้น
กิจกรรมส่วนใหญ่ของสมองส่วนนี้อาจเกี่ยวข้องกับการย่อยอาหาร แต่สมองทั้งสองอันมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เมื่ออันหนึ่งไม่มีความสุข อีกอันก็จะไม่มีความสุขด้วย ซึ่งอธิบายได้ว่า ทำไมคุณถึงรู้สึกปั่นป่วนในท้องเมื่อคุณตื่นเต้น หรือรู้สึกบางอย่างที่ลำไส้เมื่อคุณต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง สมองที่ลำไส้ของคุณมีปฏิกิริยาอย่างเป็นอิสระจากข้อมูลของสมองที่อยู่ในหัว ขณะที่ร้อยละ 90 ของเส้นใยในบางบริเวณของสมองที่สอง จะนำข้อมูลจากลำไส้ไปยังสมองด้วย
นักวิจัยบอกว่านั่นอธิบายว่าทำไมจึงมีอัตราการซึมเศร้าสูงกว่า ในคนที่มีอาการลำไส้ระคายเคือง เพราะอารมณ์สามารถถูกกระทบได้โดยตรงจากสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบลำไส้ ไม่ใช่แค่จากสมอง
ลำไส้ส่งผลต่อเราได้อย่างไร

ยังมีแบคทีเรียอีก 1.5 กก. ซึ่งเติบโตในระบบย่อยอาหาร ที่ส่งผลต่อการมีสุขภาพดีหรือไม่ดี ไม่เพียงแต่มันมีอิทธิพลต่อการผลิตสารสื่อประสาทของลำไส้ แต่แบคทีเรียในลำไส้ยังส่งสัญญาณตรงไปยังสมองในหัว ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์ และความสามารถในการจัดการความเครียดของเราได้ แบคทีเรียในลำไส้ยังบ่งชี้ด้วยว่า คุณจะลดน้ำหนักได้ง่ายแค่ไหน และมีบทบาทต่อความเสี่ยงในการเกิดหัวใจวายและเส้นเลือดในสมองแตก
จุลินทรีย์บางชนิดเชื่อมโยงกับประโยชน์ทางสุขภาพบางอย่าง แต่งานวิจัยพิสูจน์ว่าความหลากหลายของจุลินทรีย์ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด คนที่มีความหลากหลายของแบคทีเรียชนิดต่างๆ เติบโตในระบบย่อยอาหารมากกว่า จะลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพต่างๆ และมีโอกาสมากกว่าที่จะมีเซโรโทนินในลำไส้ในระดับที่ดีต่อสุขภาพด้วย
ดูแลสุขภาพลำไส้ให้ดี

ทุกสิ่งตั้งแต่สารพิษในสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงกรรมพันธุ์ ส่งผลต่อจำนวนแบคทีเรียในลำไส้ของคุณ แต่สิ่งที่คุณกินคือหัวใจสำคัญเช่นกัน (แค่การลดความเครียดและการหลีกเลี่ยงยาปฏิชีวนะก็ช่วยได้) ผลจากงานวิจัยล่าสุด สิ่งที่คุณควรทำก็คือ
1 กินใยอาหาร 35 ก.ต่อวัน
หลังจาก 16 วัน ลำไส้จะมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ซึ่งป้องกันการเป็นเบาหวานและมะเร็งลำไส้ และทำให้การลดน้ำหนักง่ายขึ้น นักวิจัยแนะนำให้บริโภคใยอาหารที่หลากหลาย เพราะแบคทีเรียที่ต่างกันจะกินใยอาหารทั้งแบบที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ เราจึงต้องผสมผสานทั้งสองอย่าง
2 หลีกเลี่ยงสารให้ความหวานเทียม
มันจะไปเปลี่ยนทั้งองค์ประกอบของแบคทีเรียในลำไส้ และการทำงานของมัน กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบเผาผลาญซึ่งเป็นอันตราย ที่ทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
3 งดอาหารขยะ
มันมักจะประกอบด้วยไขมันและน้ำตาลจำนวนมาก ซึ่งเป็นสองสิ่งที่แบคทีเรียลำไส้ไม่ชอบ ขณะที่การศึกษาชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ปริมาณการกินอาหารที่ไขมันและน้ำตาลสูงจะสร้างการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียในลำไส้ ที่ทำให้เสียความสามารถในการรับรู้ งานวิจัยชิ้นใหม่ในออสเตรเลียก็พบผลกระทบของอาหารที่มีไขมันสูงต่อแบคทีเรียในลำไส้ว่า ทำให้ยากที่จะรับรู้เมื่อคุณอิ่ม
4 ลดความเครียด
ความเครียดไม่ใช่แค่ทำให้กลุ่มแบคทีเรียในลำไส้มีความหลากหลายน้อยลงมากเท่านั้น นักวิจัยชี้ว่า มันยังส่งเสริมการเติบโตของแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงด้วย
5 กินอาหารที่มีจุลินทรีย์เมื่อแพทย์สั่งให้ใช้ยาปฏิชีวนะ
ความสมดุลที่เหมาะสมของแบคทีเรียลำไส้จะรักษาไว้ได้ ด้วยการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างหลากหลาย และให้ความสำคัญกับการเข้มงวดในการกินอาหารอย่างดีต่อสุขภาพ แต่เนื่องจากการใช้ยาปฏิชีวนะส่งผลต่อแบคทีเรียในลำไส้ นักกำหนดอาหารจึงแนะนำให้ทุกคนที่ใช้ยาปฏิชีวนะในระยะยาว ให้ใช้อาหารเสริมที่มีจุลินทรีย์
โดยขณะที่ยาปฏิชีวนะหนึ่งคอร์สจะรบกวนแบคทีเรียในลำไส้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ การใช้ยาสองคอร์สต่อเนื่องกันจะลดแบคทีเรียลำไส้ที่มีชีวิตอยู่ลงได้มากถึงร้อยละ 50 ไปอีกหลายเดือน แต่การกินอาหารเสริมที่มีจุลินทรีย์จะลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงจากการที่แบคทีเรียลำไส้ที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างเช่น ท้องเสีย ลงร้อยละ 60 โดยควรกินหนึ่งหรือสองชั่วโมงก่อนกินยาปฏิชีวนะ เพื่อให้ได้ผลในเชิงป้องกันสูงสุด
ลำไส้กับการลดน้ำหนัก

หนังสือเรื่อง The Diet Myth โดย ทิม สเปคเตอร์ ศาสตราจารย์ด้านการระบาดทางพันธุกรรมที่ King’s College London ชี้ว่าสิ่งหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อน้ำหนักและสุขภาพโดยรวม คือจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และเชื้อราจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา
- สิ่งที่เราเลือกกินมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพและน้ำหนัก แต่งานวิจัยพิสูจน์ว่าคนเราตอบสนองต่ออาหารที่เหมือนกันแตกต่างกันไป เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะยีนของเรา แต่ส่วนใหญ่เพราะแบคทีเรียในลำไส้ดีหรือไม่ดีต่อสุขภาพอย่างไร
- จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหารจะควบคุมวิธีที่คุณย่อยอาหาร นั่นหมายความพวกมันรับผิดชอบต่อปริมาณพลังงาน สารอาหาร และวิตามินที่คุณจะดูดซึมจากอาหารที่คุณกิน
- ความหลากหลายของแบคทีเรียในลำไส้จะส่งผลต่อสุขภาพ ความสุข และอายุของคนเรา แต่ความหลากหลายของแบคทีเรียในระบบย่อยอาหารต่ำกว่าที่เคยเป็นเมื่อ 50 ปีที่แล้วราวร้อยละ 30 การกินอาหารที่หลากหลายขึ้นเป็นวิธีหนึ่งในการต่อสู้กับเรื่องนี้ ซึ่งหมายความถึงการกินอาหารที่ประกอบด้วย อาหารธรรมชาติและไม่ขัดสีให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- การกินอาหารขยะแค่สองวันจะลดจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพลงอย่างไม่น่าเชื่อ
- เหตุผลที่การกินแบบเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งแนะนำให้กินอาหารที่เต็มไปด้วยพืช ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ถั่วต่างๆ และปลาและเนื้อแดงในปริมาณน้อย ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพเพราะประกอบด้วยอาหารที่ให้สารบำรุงแบคทีเรียในลำไส้
- การงดอาหารเช้าเป็นยุทธวิธีที่ดีเพื่อเพิ่มแบคทีเรียในลำไส้สำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะการอดอาหารเป็นการปรับเปลี่ยนทั้งการสร้างและกิจกรรมของแบคทีเรียในลำไส้
Average Rating